ระบบห้องสมุดที่บ้าน (itinlife365)

SLiMS senayan library management system
SLiMS senayan library management system

21 ต.ค.55 ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว สื่ออิเล็กทรอนิกส์หาได้ง่าย ดาวน์โหลดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรวมกับหนังสือในบ้านของทุกคนในครอบครัวก็เรียกได้ว่าเกินที่เก็บ ทั้งบนหิ้งหนังสือ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือในความทรงจำ ในอดีตการมีห้องสมุดที่บ้านเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะร้านหนังสือมีน้อย หนังสือมีไม่หลากหลาย และราคาแพง แต่นโยบายสนับสนุนให้คนไทยอ่านมากขึ้น ทำให้มีหนังสือวางจำหน่ายในร้านหนังสือทุกประเภท และร้านหนังสือเปิดอยู่ทุกมุมเมือง หลายบ้านจึงมีห้องสมุดที่บ้าน (Home Library)

การมีหนังสือจำนวนมากในบ้านทำให้การค้นคืนทำได้ยาก แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้เราสามารถเช่าเครื่องบริการ (Web server) พร้อมโดเมนเนม (Domain name) ไว้จดบันทึก เผยแพร่เรื่องราวรอบตัว (Blog) หรือทำธุรกิจขนาดเล็กได้แล้ว โดยมีค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 1,500 บาทต่อปีกับค่าเช่าพื้นที่และจดโดนเมนเนม ประกอบกับมีสคลิ๊ปแบบโอเพนท์ซอร์ท (Open Source) ให้นำมาติดตั้งและปรับแต่งได้ตามความต้องการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งหนึ่งในสคลิ๊ป (Script) ที่น่าสนใจคือ ระบบจัดการห้องสมุดเสนายันที่พัฒนาโดยชาวอินโดนีเซีย ซึ่งมีคนไทยร่วมพัฒนา แล้วใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

SLiMS (Senayan Library Management System) รุ่น 5 มีการปรับปรุงล่าสุดวันที่ 12 กันยายน 2555 สามารถนำมาติดตั้งในเครื่องบริการที่รองรับ MySQL และ PHP อาจใช้เป็นเพียงห้องสมุดบ้านที่รองรับการสืบค้นของสมาชิก และจัดเก็บให้เป็นระเบียบ โดยระบบแบ่งผู้เกี่ยวข้องเป็น 3 ระดับคือ ผู้ใช้ทั่วไป สมาชิกห้องสมุด และเจ้าหน้าที่ หากต้องการพิมพ์บาร์โค้ด (Barcode) สำหรับติดปกหนังสือแต่ละเล่มก็สามารถทำได้ รองรับการแนบแฟ้มมากกว่าหนึ่งแฟ้ม เพิ่มภาพปกหนังสือ ส่งแฟ้มออก (Export) หรือนำเข้า (Import) แฟ้มได้หลายรูปแบบ  รองรับการอัพโหลดอีบุ๊ค หากมีเพื่อนต้องการสืบค้น หรือยืมหนังสือก็เพียงแต่แจ้งที่อยู่เว็บเท่านั้น  นี่คือการพัฒนาแหล่งจัดเก็บสื่อการเรียนรู้ในพอศอนี้ แล้วปัญหาอ่านน้อยของคนไทยก็จะหมดไป หากทุกบ้านมีระบบห้องสมุดสื่อที่ง่ายต่อการสืบค้นและเข้าถึง

บิลลี่บนเรื่องนักการเมือง กับละคร

billy ogan
billy ogan

ไปอ่านใน manager.co.th พบหัวข้อ “บิลลี่ จวกยกชุด ซัดนักการเมืองห่วย ส่วนละครก็เสนอแต่เรื่องต่ำทราม” แล้วก็ post ภาพที่คุณ Billy Ogan เขียนใน facebook มาวางให้ดูว่า อดีตนักร้องท่านนี้แสดงความเห็นว่าอย่างไร ผมว่าอ่านแล้วก็คุ้น ๆ นะครับ ไม่ได้ใหม่เลย คนออกมาบ่นกันได้ทุกวี่ทุกวัน ทำให้รู้สึกว่าคุณบิลลี่ก็เป็นเพียงอีกคนที่ยังมีความหวังกับมนุษย์ ว่าควรเป็นอย่างนู้น ควรเป็นอย่างนี้ มนุษย์เราร้อยพ่อพันแม่ ไม่ทุกคนหรอกครับที่ทำถูกใจเรา แล้วเราก็คงทำให้ถูกใจทุกคนไม่ได้ มีประโยคหนึ่งที่ผมชอบคือ “ทุกคนต่างไม่ผิด แต่ความคิดเราต่างกัน” .. สรุปว่าก็ดีที่เห็นความหวังในข้อเขียนของมนุษย์อีกคนหนึ่ง

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000128446

การเขียน blog ของเด็ก ๆ ใน fb page

blog note
blog note

18 ต.ค.55 วันนี้ให้เด็ก ๆ เขียน blog  ซึ่งใช้บริการของ facebook page พบว่าง่ายกว่าบริการแนวเดียวกันคือ wordpress.com หรือ gotoknow.org หรือ blogger.com เพราะเป็นอะไรที่เด็ก ๆ คุ้นเคย แค่คลิ๊กคำว่า note (เป็นบริการใน fb page ซึ่งเพิ่มเด็ก ๆ เขาไปเป็น admin แล้ว และทำ favorite แต่ละคนกับ page นี้ จะได้เข้าง่าย ๆ ) แล้วก็ไหลไปตามขั้นตอน เท่านี้ก็บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ได้แล้ว ที่ย้ำ คือ ให้เลือกบันทึกร่าง ก่อนเผยแพร่เท่านั้นเอง  ใน blog แรกของแต่ละคนให้เขียน 1) งานบ้านของพวกเราช่วงปิดเทอม 2) ปิดเทอม 1 ม1ของมาหยา 3) วิชาเพิ่มเติมของน้องพีพีตอน ม.1 เทอม 2 หลังจากเขียนบล็อกเสร็จก็เป็นหน้าที่ของระบบในการเชื่อมเข้า twitter.com ของ @nationretweet แล้วเชื่อมไปยัง webpage ของ thainame.net ซึ่งพบลิงค์ที่เชื่อมไปยังบันทึกได้ทันที สำหรับเว็บไซต์นี้ได้เปิดเป็นระบบให้เด็ก ๆ สร้างข้อสอบกันเองผ่านแฟ้มประเภท csv ตอนนี้ก็ได้คนละเกือบ 2 ร้อยข้อกันแล้ว ทำกันว่าง ๆ ช่วงปิดเทอม 1 แล้วให้ฝึกทำกันเองโดยกำชับว่าต้องได้คะแนนเต็มนะ เพราะออกโจทย์กันเองก็ต้องเต็มสิ จากนี้ก็คงให้เขียน blog กันต่อเนื่องต่อไป

ติดตาม blog เด็ก ๆ ได้ที่ http://www.facebook.com/ajarnburin/notes

อาหารเจ

อาหารเจ
อาหารเจ

เทศกาลกินเจ

เทศกาลกินเจ หรือ กินแจ (อังกฤษ: Nine Emperor Gods Festival) หรือบางแห่งเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋ารวม 9 วัน กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี
มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนมานานแล้ว โดยมีตำนานเล่าขานกันหลายตำนาน ปัจจุบัน เทศกาลกินเจจัดขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ตลอดจนหมู่เกาะรีออในอินโดนีเซียและอาจจะมีในทวีปเอเชียในบางประเทศ เช่น ภูฏาน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หว้น ฮ่องกง ซึ่งการกินเจในเดือน 9 นี้ เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา

ความหมายของอาหารเจ
คำว่า เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายานมีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถ ดังนั้นการกินเจ คือ การรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่ถืออุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 โดยไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจ
ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่ากินเจ ฉะนั้นความหมายคือคนกินเจ มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ

อาหารเจ คืออะไร
อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ ส่วนประกอบที่มาจากสัตว์ทุกประเภทและไม่ปรุงด้วยผักฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย และใบยาสูบ (บ้างเชื่อว่าผักเหล่านี้เพิ่มความกำหนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีน) ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง โดยในประเทศจีน พบว่ามีภัตตาคารบางแห่งซึ่งบริการ “ปรุงอาหารตามใบสั่งแพทย์” (กล่าวคือ ผู้ที่เข้ามารับประทานจะต้องได้รับใบสั่งอาหารของแพทย์เสียก่อน) โดยลูกค้าของภัตตาคารดังกล่าวเป็นคนไข้ที่กำลังเข้ารับ “การบำบัดโรคด้วยอาหารตามหลักเวชศาสร์โบราณ” หลังเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว

จุดประสงค์ของการกินเจ
ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
1. กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
2. กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้นซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
3. กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโตได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น

การปฏิบัติตนในช่วงกินเจ
ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วยสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจ จะต้องปฏิบัติดังนี้
1. รับประทาน “อาหารเจ”
2. งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก
3. รักษาศีลห้า
4. รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์
5. ทำบุญทำทาน
6. นุ่งขาวห่มขาว
สำหรับผู้ที่เคร่งครัดเพื่อการกินเจให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์โดยแท้ จะเพิ่มการปฏิบัติโดยการกินอาหารเฉพาะที่คนกินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงเท่านั้น รวมถึงจะล้างหม้อไหจนสะอาดเอี่ยมแยกภาชนะสำหรับการปรุงอาหารเจไว้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังจุดตะเกียงไว้ 9 ดวงตลอดช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน โดยไม่ปล่อยให้ดับเพื่อเป็นพุทธบูชาและรำลึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ญาติพี่น้องตลอดจนผู้ที่มีบุญคุณต่อผืนแผ่นดินเกิด

เจ็ดวันอันควรงดเว้นจากการกินเนื้อสัตว์
แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากที่ยังคงเข่นฆ่ากินเลือดกินเนื้อสัตว์ทุกวัน แต่อย่างน้อยที่สุดควรหยุดคิดสักนิดให้เห็นถึงความสำคัญของวันทั้ง 7 ที่ควรงดเว้นเนื้อสัตว์เพื่อเป็นมงคลชีวิตสู่ความสำเร็จของตนเองและครอบครัว ถือเป็นมหากุศลและเมตตาธรรมสูงสุด
1. กินเจในวันเกิดของตนเอง
วันที่เราได้เกิดมามีชีวิตไม่ควรทำลายผู้อื่น สัตว์ทั้งหลายเมื่อถือกำเนิดมาบนโลกต่างก็อยากมีชีวิตอยู่ยืนยาว เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งที่ไปฆ่าผู้อื่นแล้วกินเลือดกินเนื้อเขาเพื่อฉลองวันเกิดของตนเองซึ่งเป็นการตัดทอนอายุขัยของผู้อื่นให้สั้นลงแล้วจะหวังให้ตนเองมีอายุยืนยาวได้อย่างไร
2. กินเจในวันเกิดของลูกหลาน
ในวันเกิดของลูกหลานวันที่ชีวิตใหม่ถือกำเนิดผู้เป็นพ่อแม่ต่างชื่นชมยินดีเป็นที่สุด ลูกของเราเรารักดังแก้วตาดวงใจยามลูกนอนก็คอยปัดเป่าพัดวีแม้แต่ยุง เหลือบ ริ้น ไร มิยอมให้ขบกัด สัตว์ทุกตัวก็รักลูกของเขาเช่นเดียวกับมนุษย์ ดวงใจของผู้เป็นพ่อแม่ ไม่มีแบ่งแยกว่าเป็นมนุษย์หรือสัตว์ ลูกของใครใครก็รักเพราะฉะนั้นวันที่เราได้ลูกต่างสุดแสนดีใจแล้วทำไมจึงต้องทำให้ผู้อื่นเสียใจที่ลูกต้องตายจากไป
3. กินเจในวันแต่งงานหรือวันมงคลสมรส
วันแต่งงานหรือวันมงคลสมรสเป็นวันที่มีความหมายอย่างยิ่งในชีวิต ในชั่วชีวิตของแต่ละคนจะมีงานมงคลนี้เพียงครั้งเดียว ทุกคนเมื่อแต่งงานกันแล้วต่างก็อยากมีชีวิตที่ยั่งยืนได้ครองรักกันไปจนแก่เฒ่า คู่รักของใครต่างก็รักและหวงแหนไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำอันตราย สัตว์ก็มีคู่ชีวิตรู้จักรักและหวงแหนเช่นกัน หากวันที่เราได้คู่ชีวิตมาเคียงข้างกลับเป็นวันที่เราพรากชีวิตคู่ของผู้อื่นมานั้นมันช่างไม่ยุติธรรมเลย ดังนั้นวันที่เราแต่งงานได้คู่ครองจึงไม่ควรพราดชีวิตสัตว์อื่น
4. กินเจในวันงานเลี้ยงเพื่อนฝูงญาติมิตร
ในโอกาสจัดงานเลี้ยงสังสรรค์รับรองเพื่อนฝูงญาติมิตรทุกคนที่มาร่วมชุมนุมต่างปลื้มปีติที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง โอกาสที่น่ายินดีเช่นนี้เราไม่ควรใช้ชีวิตเลือดเนื้อของผู้อื่นมาเลี้ยงฉลองเพราะขณะที่เราดีใจที่ฉลองด้วยเลือดเนื้อผู้อื่น แต่สัตว์ทั้งหลายต่างโศกเศร้าเสียใจที่ต้องตายจากกันไป หากจัดเลี้ยงเพื่อนฝูงด้วยอาหารพืชผักและผลไม้ถือได้ว่าเป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่ที่บังเกิดขึ้นแก่เพื่อนฝูงผู้มาร่วมงานซึ่งถือว่าเป็นความปีติยินดีให้แก่ทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
5. กินเจในวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
ผู้ที่มีความกตัญญูที่แท้จริงไม่พึงกระทำอย่างยิ่งในงานบำเพ็ญกุศลอุทิศให้แก่ผู้ที่เราเคารพรัก ทุกคนรู้สึกโศกเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ฉะนั้นในงานศพจึงไม่ควรทำให้สัตว์ทั้งหลายต้องตายตามไปด้วย ดวงวิญญาณของคนที่เขาเคารพรักเหล่านั้นย่อมจะจากไปโดยไม่มีความสงบสุขแน่หากรู้ว่างานศพของตนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้อื่นต้องล้มตายลงอย่างมากมาย
6. กินเจในงานทำบุญสร้างกุศลทุกโอกาส
คนเรามีโอกาสประสบสิ่งดีๆ ในชีวิตมีโอกาสที่ได้สร้างบุญกุศลอยู่เสมอ เช่น วันขึ้นปีใหม่หรือวันทำบุญอื่นๆ รวมถึงเพื่อเป็นการถวายเป็นพระราชกุศลเป็นต้นการจัดงานทำบุญในวันเหล่านี้ทุกคนต่างก็มุ่งหวังให้ตนมีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ายิ่ง ให้มีชีวิตที่ดีได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป ฉะนั้นในงานสร้างบุญกุศลทุกงานจึงไม่สมควรเลี้ยงพระ เณร แขกเหรื่อและเพื่อนฝูงด้วยชีวิตและความตายของสัตว์ เพราะเหตุนี้ในโอกาลงานบุญงานกุศลที่เราทุกคนปรารถนาแต่ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าอยู่เย็นเป็นสุขจึงไม่ควรสร้างบาปซึ่งเป็นเหตุให้ชีวิตผู้อื่นต้องตาย
7. กินเจในโอกาสขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในโอกาสที่ไปกราบไหว้สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าพระองค์ใดก็ตาม ทุกคนควรชำระล้างปาก ลิ้น ให้สะอาดด้วยการกินเจ กระทำตนให้สะอาดทั้งกายวาจาและจิตใจ เมื่อนั้นก็จะบังเกิดความสุขความเจริญเป็นสิริมงคลแก่ตัวเราเอง การถวายเครื่องสักการะอื่นใดแม้จะมีราคาแพงสักเท่าไรมันก็เป็นเพียงวัตถุสิ่งของเท่านั้น ขอให้ทุกคนจงนำเอา “จิตใจอันดีงาม” ซึ่งมีอยู่แล้วในตัวของทุกๆ คนออกมาถวายเป็นเครื่องสักการะต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์เบื้องบน จิตใจที่มีแต่ความบริสุทธิ์ดีงามของมนุษย์นี่แหละเป็นเครื่องสักการะอันล้ำค่าที่สุด

http://en.wikipedia.org/wiki/Nine_Emperor_Gods_Festival

แฮกเกอร์หมวกขาวแฮกกูเกิ้ล (itinlife 364)

psn (playstation network)
psn (playstation network)

ข่าวจาก zdnet.com กลางเดือนตุลาคม 2555 เล่าถึงผลงานของแฮกเกอร์หมวกขาว (White hat hacker) ที่พบรอยรั่วของ google.com ซึ่งคำว่าแฮกเกอร์ (Hacker) คือ คนที่มีพฤติกรรมลักลอบเข้าระบบในช่องทางที่ระบบไม่ได้เตรียมไว้ เหมือนกับการแอบปีนเข้าหลังบ้านไม่ให้เจ้าบ้านรู้ตัว มิได้เดินเข้าทางประตูบ้านแล้วกล่าวทักทายเจ้าบ้านเหมือนแขกทั่วไป ถ้าเป็นแฮกเกอร์ทั่วไปจะเป็นแฮกเกอร์หมวกดำ (Black hat hacker) คือ คนที่ลักลอบเข้าระบบ แล้วใช้ประโยชน์จากรอยรั่วที่ค้นพบ และก่อความเสียหายให้กับระบบ เพื่อประโยชน์ของตนเอง และก่อความเสียหายกับเจ้าของระบบ

ในเว็บไซต์ขนาดใหญ่ อาทิ google, facebook, mozilla หรือ twitter ต่างก็ใส่ใจกับความปลอดภัยของระบบบริการของพวกเขา จะมีกลไกทำกิจกรรม Bug bounty program หรือ Vulnerability reward program คือ การให้รางวัลแก่ผู้ตรวจพบจุดบกพร่องของระบบ แล้วบริษัทก็จะปิดจุดบกพร่องเหล่านั้น ก่อนที่แฮกเกอร์ทั่วไปจะเข้าถึง และนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ เงินรางวัลอยู่ระหว่าง 15,000 บาท ถึง 90,000 บาท ซึ่งเป็นกิจกรรมเปิดช่องทางให้เหล่าแฮกเกอร์มีทางเลือกในการเป็นแฮกเกอร์หมวกขาว ส่งผลให้ข่าวการแฮกระบบของแฮกเกอร์ทั่วไปลดลง

แฮกเกอร์หนุ่มอิสราเอล 3 คน คือ Ben Hayak, Nir Goldshlager และ Shai Rod ทำงานเป็นแฮกเกอร์หมวกขาว ซึ่งเป็นงานนอกเวลา บทเรียนเรื่องนี้สะท้อนได้ว่าผู้ดูแลระบบ (Administrator) หรือองค์กร (Organization) ควรใส่ใจกับความปลอดภัยในทุกขั้นตอน หากในองค์กรมีกิจกรรมที่เปิดให้คนในองค์กร หรือคนทั่วไปค้นหาจุดบกพร่องของระบบ หากค้นพบแล้วแจ้งตามช่องทางที่เตรียมไว้ ผู้ที่ค้นพบก็จะได้รางวัลเป็นค่าตอบแทน ส่วนองค์กรก็จะปิดจุดบกพร่องเหล่านั้นก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายเหมือนเคยเกิดกับ Yahoo! Voices ที่ถูกแฮกแล้วนำรหัสผ่านไปเปิดเผยกว่า 450,000 บัญชี ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2555 หรือการแฮกเครื่องเกมเพลย์สเตชัน3 ก่อความเสียหายกับบริษัท sony มีมูลค่าความเสียหายกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งแฮกโดย Geohot (จอร์จ ฟรานซิส ฮอตซ์) ที่เคยแฮก iPhone ทำ jailbreaks มาให้ใช้ โลกเรามีขาวกับดำเหมือนหยินกับหยาง ถ้าใช้ประโยชน์ก็เป็นธรรมะ ใช้ทำลายก็เรียกว่าอธรรม

+ http://www.zdnet.com/hacking-google-the-three-israeli-white-hats-rooting-out-the-webs-security-holes-7000005542/

+ http://www.pantip.com/tech/techblog/article.php?articleID=SV3074764

SLiMS/Senayan 5 (Meranti)

install senayan
install senayan

12 ต.ค.55 ได้ทดสอบติดตั้งระบบจัดการห้องสมุดบนเว็บไซต์ โปรแกรมนี้ชื่อ SLiMS/Senayan 5 (Meranti) update 6 มีแหล่งเผยแพร่ที่ http://slims.web.id/web/ เป็น open source ที่พัฒนาโดยคนอินโดนีเซีย และมีคนไทยได้พัฒนาส่วนภาษาไทยให้กับเขา เราจึงมี option ภาษาไทย สำหรับการใช้งานระบบนี้

สรุปเฉพาะประเด็นที่สำคัญ เพราะการติดตั้งไม่ยาก
1. มี web server ตัวใดก็ได้
ที่ผมใช้คือโปรแกรมของ http://www.thaiabc.com
2. มี mysql server ที่มี phpmyadmin
ผมก็ใช้ของ thaiabc.com ซึ่งที่มี user:admin password:p
3. ใช้ phpmyadmin ไปสร้าง database ชื่อ senayandb
4. เข้าไปแก้ไขแฟ้ม sysconfig.inc.php
กำหนด user และ password ให้ตรงกับ mysql
5. หากติดตั้งเสร็จแล้ว ระบบเตรียมรหัส admin มาให้แล้ว
user: admin password: admin
6. ถ้าติดตั้งแล้วเขาเตือนว่า ให้ลบห้อง /install เพื่อความปลอดภัย
7. download script ของโปรแกรมแล้วคลาย zip ลงห้อง root
http://slims.web.id/download/slims5-meranti-update6.tar.gz
8. ภาพประกอบ 31 ภาพ
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.532269490120520.133480.506818005999002&type=1

บันทึกเดิมเรื่องนี้ เมื่อ 25 ก.พ.2555
http://www.thaiall.com/blog/burin/3955/

LiMS (Senayan Library Management System) is a free and open source Library Management System. It is build on free and open source technology like PHP and MySQL. SLiMS provides many features such as bibliography database, circulation, membership management and many more that will help “automating”  library tasks. This project was sponsored by Pusat Informasi dan Humas Kemdikbud and licensed under GPL v3.

เสนายัน (SENAYAN) คือ โปรแกรมห้องสมุดอัตโนมัติโอเพนซอร์ส  สัญชาติอินโดนีเซีย ได้รับรางวัล ICT Award  ของอินโดนีเซียเป็นเครื่องหมายรับประกันว่าถึงแม้จะเป็นของฟรี แต่ก็มีความสามารถสูง เขียนด้วยภาษา  PHP และใช้ฐานข้อมูล MySql  เช่นเดียวกับ OpenBiblio แต่โดยภาพรวมอาจจะมีความสามารถไม่ด้อยกว่า OpenBiblio และถูกพัฒนาให้ใช้ภาษาไทย โดย คุณประสิทธิ์ชัย  เลิศรัตนเคหกาล ซึ่งผู้พัฒนาภาษาไทยให้กับ OpenBiblio ต่อยอดจากต้นฉบับประเทศอินโดนีเซีย ให้ใช้งานภาษาไทย

เปลี่ยนหัวหน้าอีกครั้ง (change boss)


12 ต.ค.55 เพื่อนเล่าให้ฟังต่อจากปี 52 ว่าชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง นี่ก็เปลี่ยนหัวหน้ามาหลายคนแล้ว ต่อจากคุณเอกในปี 52 ก็เป็น 12) บอย 13) นัท 14) อุ้ย 15) ลักษณ์ และล่าสุดปี 55 คือ 16) ปุ๊ก พร้อมกับเปลี่ยนสังกัดจาก PR ไปเป็น HR

มีเพลงของบิลลี่หลายเพลงน่าสนใจ แต่เพลงนี้ดูมีน้ำใจครับ ชอบทำนองด้วย

เพลง     น้ำใจลูกจ้าง
ศิลปิน     บิลลี่ โอแกน
รหัสเพลง     05688

สวัสดี สวัสดีนายครับ
ผมคิดถึงนาย ไม่ได้ไปไหว้ปีใหม่
ได้ข่าวที่ไม่ค่อยดีเรื่องนาย
ได้ข่าวว่าเศรษฐกิจวุ่นวาย
นายแทบล้มละลาย
ต้องกลายเป็นคนเคยรวย
จะบอกนาย จะบอกนายเอาไว้
เดือดร้อนยังไง ไอ้ผมก็เต็มใจช่วย
อยากเห็นเจ้านายกลับไปร่ำรวย
ผมรู้ไม่นานเจ้านายต้องรวย
ถ้านายมีผมคอยช่วย
รับรองต้องรวยเหมือนเดิม
ถ้านายจะไปขายเต้าฮวย
ผมไปขายเฉาก๊วยร่วมด้วยก็ยังได้
รึว่านายจะไปขายก๋วยจั้บ
ผมจะไปช่วยหั่นตับเครื่องในเอามั้ย
รึว่านายจะไปขายข้าวแกง
ผมจะทำแพนงกับแกงเผ็ดไปให้
รึว่านายจะไปขายเกาเหลา
ผมไปเสิร์ฟข้าวเปล่าลูกค้าให้นาย
รึว่านายจะไปขายราดหน้า
ผมช่วยหั่นผักคะน้าให้นายเอาไหม
รึว่านายจะไปขายไก่ย่าง
ผมทำไก่อบฟางขายด้วยยังได้
รึว่านายอยากจะไปขายถั่ว
ผมจะช่วยปลอมตัวโพกหัวนายให้
รึว่านายจะไปขายฮ้อทด๊อก
ผมจะช่วยทำไส้กรอกอีสานให้นาย
ให้นายรวยรวย ให้นายรวยรวย
ให้นายรวยรวย ให้นายรวยรวย
จะบอกนาย จะบอกนายเอาไว้
เดือดร้อนยังไง ไอ้ผมก็เต็มใจช่วย
อยากเห็น เจ้านายกลับไปร่ำรวย
ผมรู้ไม่นานเจ้านายต้องรวย
ถ้านายมีผมคอยช่วย
รับรองต้องรวยยิ่งกว่าเดิม
หากว่านายจะไปขายหอยทอด
ผมจะทำน้ำซอสอร่อยอร่อยไปให้
รึว่านายจะไปขายสุกี้
ผมทำเต้าหู้ยี้รถเด็ดยังไหว
หากว่านายจะขายข้าวหมูแดง
ผมไปช่วยหั่นแตงหั่นหมูยังได้
รึว่านายจะเปิดร้านโต้รุ่ง
ผมไปผัดบุ้งไฟแดงเอามั๊ย
หากว่านายจะขายข้าวต้มผัด
ผมจะคอยช่วยตัดใบตองไว้ให้
รึว่านายจะขายลาบน้ำตก
ผมมีสากกับครกไปตำส้มตำยังได้
รึว่านายจะขายปาท่องโก๋
ผมช่วยขายไมโล โอยั๊วะช่วยนาย
รึว่านายจะขายกระเพาะปลา
ผมต้มไข่นกกระทาเตรียมไว้ให้นาย
ให้นายรวยรวย ให้นายรวยรวย
ให้นายรวยรวย ให้นายรวยรวย
จะบอกนาย จะบอกนายเอาไว้
เดือดร้อนยังไง ไอ้ผมก็เต็มใจช่วย
อยากเห็น เจ้านายกลับไปร่ำรวย
ผมรู้ไม่นานเจ้านายต้องรวย
ถ้านายมีผมคอยช่วย
รับรองต้องรวยยิ่งกว่าเดิม
หากว่านายจะไปขายรองเท้า
ผมไปช่วยทากาวให้นายยังได้
รึว่านายจะไปขายของเก่า
ผมมีตู้มีเตาพระเจ้าเหาเคยใช้
แต่ถ้านายจะไปทำเฟอร์นิเจอร์
ผมช่วยทาแลคเกอร์เอาเงาด้านก็ได้
รึว่านายจะไปขับแท็กซี่
ผมจะหารถดีดี มาไว้ให้นายใช้
แต่ถ้านายจะไปทำก่อสร้าง
ผมจะไปคอยช่วยวางเหล็กเส้นก็ได้
รึนายขี่มอเตอร์ไชด์รับจ้าง
ผมจะช่วยบอกทางซอกแซกเอามั๊ย
หากว่านายอยากจะไปเฝ้ายาม
ผมจะลองไปถามเจ้าของแฟลตเค้าให้
รึนายอยากจะไปเป็นเซลล์แมน
ผมจะช่วยวางแผนการขายให้นาย
ให้นายรวยรวย ให้นายรวยรวย
ให้นายรวยรวย ให้นายรวยรวย
รึว่านายอยากไปเป็นนักร้อง
ผมจะได้ไปจองห้องอัดเอาไว้
รึว่านายอยากไปเป็นตลก
ผมบอกหม่ำจ๊กม๊กมาดูตัวยังได้
รึว่านายอยากจะไปชกมวย
ผมจะได้ไปช่วยไปเป็นคู่ซ้อมให้
รึว่านายจะหันหน้าเข้าวัด
ผมจะหาตาลปัตร
สวยสวยมาถวาย
หากว่านายมีอะไรขาดเหลือ
ผมจะขอสินเชื่อให้นายก็ได้
รึว่านายมีแต่หนี้เสียเสีย
ผมบอกกู๊ดแบงค์เคลียร์ให้นายยังไหว
รึว่านายอยากจะเทขายหุ้น
ผมจะหานักลงทุน
มาช้อนซื้อหุ้นให้นาย
รึว่านายอยากจะคิดเปิดบ่อน
ผมจะรับแทงบอลเปิดโต๊ะช่วยนาย
รึว่านายอยากจะเป็นเจ้าพ่อ
ผมหาพระห้อยคอแท้แท้มาให้
รึนายอยากจะเป็น ส.ส.
ผมไปสอพลอให้นายเอามั๊ย
รึนายอยากเป็นรัฐมนตรี
ผมจะช่วยล้อบบี้
กับปาร์ตี้ลิสต์เค้าให้
ถ้าเมื่อไหร่มีกำไรถอนทุน
นายให้ผมร่วมหุ้นแล้วเพิ่มทุนดีมั๊ย
http://music.forthai.com/music/lyric/?sid=5688

อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย ของ พัชรา แวววรรณ

http://www.youtube.com/watch?v=P2a2wQJ9dQc

มีข่าวเศร้าว่า พัชรา แวววรรณ เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่  10 ต.ค.55  เวลา 12.15 (ท้องถิ่น)

ที่เมืองโพรมอนทอรี่ รัฐยูท่าห์ หรัฐอเมริกา
(Promontory, Utah, United State)
ขอให้เจ้าของเสียงนี้ ไปสู่สุขคติครับ

เพลง อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย
เมื่อฉัน พบเธอ ฉันเกลียด ถนน
เพราะทำให้เราสองคน ต้องพราก จากกัน
เมื่อฉัน พบเธอ ฉันเกลียด ตะวัน
เพราะทำให้ฉัน โศกศัลย์ นับวันรอเธอ
เกลียดแม้ ยามหลับ สมองเหมือนดับ
หยุดความเพ้อเจ้อ เกลียดทุกคน ที่ใกล้เธอ
ปล่อยฉันละเมอ เดียวดาย
.เมื่อฉัน พบเธอ ฉันเกลียด โชคร้าย
เพราะทำให้ฉัน กลับกลาย เป็นคนรักเธอ ข้างเดียว
เกลียดแม้ ยามหลับ สมองเหมือนดับ
หยุดความเพ้อเจ้อ เกลียดทุกคน ที่ใกล้เธอ
ปล่อยฉันละเมอ เดียวดาย
.เมื่อฉัน พบเธอ ฉันเกลียด โชคร้าย
เพราะทำให้ฉัน กลับกลาย เป็นคนรักเธอ ข้างเดียว

เนื้อเพลงนี้ ..

ทำให้ผมนึกได้ว่า ทุกคนล้วนมีเหตุผล
ที่สมเหตุสมผล ตามเกณฑ์ของตนเองเสมอ

คลิ๊ปคนกรุงโชว์รักแร้ อีกหน่อยวัฒนธรรมนี้ก็คงไหลเข้าทุ่ง

11 ต.ค.55 ผมเป็นคนต่างจังหวัด เห็นโฆษณาโชว์รักแร้ แล้วก็หันต้องไปดูให้รู้เรื่อง .. น่าแปลกใจว่าคนทันสมัย คนในเมืองหลวงยุคนี้ เขาเอารักแร้มาโชว์กันแล้วหรือ คงเพราะผมไม่ค่อยได้โหนรถเมย์ติดแอร์ แล้วที่ทำงานก็อยู่ติดทุ่ง นั่งสองแถว จึงไม่เคยเห็นรักแร้ขาว ๆ นี่ถ้าเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยเดินโชว์รักแร้มาแต่ไกล ผมจะต้องชมให้สักหน่อยว่า “ขาวเกินหน้า” ถ้าเพื่อนคนไหนโชว์รักแร้ ผมจะชมให้ครับ (สัญญาใจเลย) .. แต่สงวนสิทธ์เฉพาะผู้หญิงนะครับ เพราะรู้สึกว่าโฆษณาในประเทศไทยจะนิยมโชว์รักแร้เฉพาะผู้หญิง อันที่จริงรักแร้ผมก็ขาวไม่แพ้หญิงเชียวนะ เพราะไม่รู้ว่าสมัยนี้เขาต้องโชว์รักแร้กันแล้ว ผมก็เลยไม่ได้ยกโชว์ใคร .. ต้องอินเทรนกันหน่อย

นิยามศัพท์ คำว่า รักแร้ (armpit) คนภาคกลางเรียกว่า ใต้วงแขน

white armpit
white armpit

คอร์ปอเรท ยูนิเวอร์ซิตี้ ทางออกการศึกษาไทย

ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์
ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์

โดย กมลทิพย์ ใบเงิน

คนคุณภาพ” กำลังกลายเป็น “วิกฤติ” ในภาคการผลิตแทบทุกองค์กร รวมถึงภาคราชการ แน่นอนกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หนีไม่พ้นข้อครหาเหล่านี้ ในฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐรับผิดชอบการจัดการศึกษาภาพใหญ่ของประเทศถึงร้อยละ 90 นับเป็น “ตัวป้อนคน” เข้าสู่ภาคแรงงานทั้งรัฐและเอกชนมากที่สุด แต่ “ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นักคิด นักเขียน นักบริหารมือทองระดับมันสมองของไทย ชี้ทางออกของการศึกษาไทยที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว
เผอิญเราเป็นเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่สัมผัสกับคนเยอะมาก ในหนึ่งวันเรามีลูกค้าเข้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น 8 ล้านคน ตกเดือนละ 20 ล้านคน บางคนไม่ซ้ำหน้า เราเลยสัมผัสกับคนเยอะของสังคมไทย ผมค่อนข้างจะใกล้ชิดกับการมองภาพรวมของสังคมไทย มองสังคมและมองประเทศไทย ในอีก 10-20 ปีข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร ผมห่วงสังคม ห่วงประเทศ ห่วงคุณภาพของเด็กไทย เราก็ห่วงของเราไปอย่างนี้มาตลอดคงไม่ได้แล้ว ต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้สังคมไทยดีขึ้นในรุ่นลูกรุ่นหลานก่อศักดิ์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในโลกอนาคตอีก 10-20 ปีข้างหน้า พลังหนุ่มสาวจะกลายเป็นเจ้าของประเทศไทย แต่ถามว่าวันนี้ “ผู้ใหญ่” ในบ้านเมืองเราได้เตรียมคนหนุ่มสาวให้พร้อมเพื่อจะมารับ “ไม้ผลัด” ในการดูแลบ้านเมืองจากรุ่นพ่อแม่กันหรือยัง
ด้วยสภาพความเป็นจริงการจัดการศึกษาในปัจจุบัน ไม่สามารถฝากอนาคตประเทศเอาไว้ได้ ด้วยระบบการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา เต็มไปด้วยปัญหาด้าน “คุณภาพการศึกษา” ที่ด้อยลงทุกวัน ไม่ว่าจะวัดคุณภาพในรูปแบบใดก็ตาม ทั้งที่ในสถาบันการศึกษามีจำนวน “ศาสตราจารย์” และ “ดอกเตอร์”  มากกว่าในอดีต
“ปัจจุบันภาคธุรกิจบ่นคุณภาพปริญญาตรีไม่น่าพอใจ  ส่วนสถาบันอุดมศึกษาก็แก้ตัวว่าเมื่อรับขยะเข้ามาเรียน จบออกไปก็ยังเป็นขยะ ตรงนี้เป็นปัญหา แต่จะให้เรามาแก้การจัดการศึกษาตลอด 16 ปีนั้นคงไม่ไหว เอาแค่ 4 ปีที่ทุกวันนี้ ภาพรวมเด็กจบ ม.ปลายก็มาเดินเล่นในรั้วมหาวิทยาลัย เดินจากตึกโน้นไปตึกนี้ เพื่อเรียนสะสมหน่วยกิต ขณะเดียวกันก็ทำกิจกรรมแบบเด็กๆ ไปด้วย
ดังนั้นเวลา 4 ปีในสถาบันอุดมศึกษา เด็กของเราไม่ได้ถูกฝึกให้เรียนจบแล้วเพื่อมาทำงานได้  มีแต่เรียนๆ เล่นๆ จ่ายเงินครบก็จบแล้ว แต่จบมาแล้วตกงาน แม้จะมีสหกิจศึกษาซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่เด็กได้ฝึกปฏิบัติแค่เทอมเดียวย่อมไม่เพียงพอ ต่อการเข้าสู่โลกของการทำงานจริงเมื่อสำเร็จการศึกษา”
ก่อศักดิ์” ฟันธงว่าการจัดการศึกษาที่สูญเปล่าแบบนี้ ย่อมไม่เกิดผลดีต่อเด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง และประเทศชาติอย่างแน่นอนในอนาคต ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการ “อาสา” รับใช้บ้านเมืองด้วยการจัดตั้ง “สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (Panyapiwat Institute of Management) หรือ PIM เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนทุนในการจัดตั้งจาก “บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)” นับเป็นสถาบันอุดมศึกษาแรกๆ ในประเทศไทยที่เป็น Corporate University หรือสถาบันการศึกษาที่เชื่อมโยงกับธุรกิจ
“วันนี้เราได้เปิดหลายสาขาวิชาแล้ว ที่ไม่ได้มุ่งเน้นการสร้างคนเพื่อเรา เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ไม่จำเป็นต้องทำงานที่เราอย่างเดียว ไปทำที่ไหนก็ได้ สาขาการจัดการอาคารและทรัพยากรกายภาพ (Building and Facilities Management) จบแล้วก็สามารถไปทำงานในวงการอสังหาริมทรัพย์ ดูแลอาคารสูง และต้องไปฝึกงานกับสถานประกอบการจริง และถูกจองตัวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบอยู่ อย่างนี้ก็ไม่ได้ผลิตเพื่อเรา และที่เพิ่งเปิดตัวไปคือ Luxury Product Management ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้มีสินค้าลักชัวรี่เลย คนที่จบมาเราก็ให้วงการลักชัวรี่ไป สาขาภาษาจีนธุรกิจก็ได้ไปฝึกงานกับองค์กรจีน เช่น ทีซีแอล, คิงเพาเวอร์, พารากอน ซึ่งสามารถได้เรียนและฝึกภาษากับเจ้าของภาษาหลายสำเนียง ไม่ได้เรียนรู้จากซาวนด์แล็บเพียงอย่างเดียว ที่น่ายินดีปีนี้เด็กมาสมัครเข้าเรียนจำนวนถึง 2,300 คน แต่เรารับได้เพียง 1,900 คน”
ก้าวย่างที่สำคัญของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ “ก่อศักดิ์”  กล่าวว่า พีไอเอ็มมีโครงการจัดตั้ง “คณะนวัตกรรมการจัดการเกษตร” (Innovative Agricultural Management) เป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) จะมีพิธีลงนามความร่วมมือในวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 โดยจะร่วมมือกันพัฒนาวิชาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรทั้งหมด ที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อพี่น้องเกษตรกรไทยโดยเฉพาะชาวนา
“อาจจะเกิดการรวมพื้นที่ทำนาข้าวจากคนในชุมชน ชุมชนละ 20 ไร่ รวมเป็น 2,000 ไร่ นำระบบการบริหารจัดการ เทคนิคพิเศษต่างๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันก็ลดจำนวนชาวนาลงเพื่อยกระดับให้มาทำอาชีพอย่างอื่น อย่างจีนพลเมืองที่ทำนามีร้อยละ 60 ขณะที่สหรัฐอเมริกามีร้อยละ 6 ของประชากรในประเทศ แต่ปัจจุบันชาวนาสหรัฐอเมริกาลดเหลือเพียงร้อยละ 1 แต่สามารถทำนาเลี้ยงคนทั้งประเทศได้”
โครงการจัดตั้ง “คณะนวัตกรรมการจัดการเกษตร” เริ่มจากการที่พีไอเอ็มส่งนักศึกษาไปเรียนร่วมกับนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในบางรายวิชา  ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีความเชี่ยวชาญสูง รวมถึงการใช้ห้องปฏิบัติการด้วย ส่วนวิชาที่เกี่ยวกับศาสตร์การบริหารจัดการ ทางพีไอเอ็มจะเป็นผู้สอนเอง ในอนาคตมีโครงการขยายกรอบความร่วมมือไปถึงขั้นการร่างหลักสูตรใหม่ร่วมกัน รวมถึงการให้ปริญญาร่วม 2 สถาบัน (Double Degree) คุณลักษณะของบัณฑิตที่จบจากพีไอเอ็มจะเป็นคน “เรียนเป็น คิดเป็น ทำงานเป็น เข้าใจวัฒนธรรม รักความถูกต้อง”
“ผมเชื่อมั่นว่าการจัดการศึกษาแบบ คอร์ปอเรท ยูนิเวอร์ซิตี้ (Corporate University) จะเป็นทางออกของการศึกษาไทย และผมอยากเชิญชวนให้ภาคธุรกิจเครือข่ายใหญ่ของไทย 30-40 บริษัทมาช่วยกันเปิดมหาวิทยาลัยเฉพาะทาง เรียนจริงปฏิบัติจริง จบแล้วมีสัดส่วนของการได้ทำงานจริง เพราะการให้ทุนการศึกษาจำนวน 1 หมื่นทุน แม้ช่วยการศึกษาชาติได้ก็จริง แต่ไม่ใช่การช่วยจัดการศึกษาชาติได้แบบยั่งยืนครับ”
“ก่อศักดิ์” กล่าวอีกว่า อุปสรรคสำคัญอีกอย่างหนึ่งของคนไทยในการจัดการศึกษา มาจากค่านิยมของพ่อแม่ ผู้ปกครองที่คลั่งใบปริญญา ไม่คำนึงถึงการเรียนจบแล้วทำงานได้จริง แตกต่างจากประเทศเยอรมนีที่ถือการทำงาน หรือความสำเร็จในการทำงานเป็นหลัก ใบปริญญาเป็นรอง คอร์ปอเรท ยูนิเวอร์ซิตี้ คือทางออกของการศึกษาไทยอย่างที่ซีพีทำอยู่แล้ว เราอยากให้เครืออื่นทำตาม แม้ปัจจุบันมีสหกิจศึกษาซึ่งเป็นความคิดที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอต่อการฝึกงานเพียงแค่เทอมเดียว

http://www.komchadluek.net/detail/20120926/140877/ชูคอร์ปอเรทยูนิเวอร์ซิตี้.html
โดย…กมลทิพย์  ใบเงิน