เลื่อนแจกแท็บเล็ตปี 2556

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน
ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน

นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการศึกษาของไทยเปลี่ยนแปลงในปีการศึกษา 2555 อีกครั้ง เมื่อนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในประเทศไทยได้รับแจกแท็บเล็ตพีซีเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน แล้วปีการศึกษา 2556 เป็นปีที่ 2 ที่จะแจกให้กับนักเรียน 2 ระดับชั้น คือ เพิ่มชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งกระทรวงศึกษาออกมาให้ข่าวในต้นเดือนมี.ค.56 ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างทำรายละเอียดความต้องการ หากกำหนดการไม่เปลี่ยนก็จะมีการส่งในช่วงปลายพ.ค. ถึงก.ค.56 ซึ่งไม่ทันส่งมอบในวันเปิดเรียน คือ 16 พ.ค.56 เพราะมียอดรวมที่จะซื้อกว่า 1.8 ล้านเครื่อง ใช้งบหลายพันล้านบาท

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000027890

ไม่ทราบว่าทำไมในปี 2555 ถึงต้นปี 2556 ถึงมีข่าวการศึกษาเชิงลบออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลการจัดอันดับในเวทีโลกด้านการศึกษาที่มีแนวโน้มอยู่ในอันดับท้าย ข่าวสอบครูผู้ช่วยที่คาดว่า 1000 จาก 2000 คนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ข่าวทุจริตสอบตำรวจ ข่าวปิดสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในภาคอีสาน และข่าวผลประเมินโรงเรียนโดยสมศ.ไม่ได้คุณภาพถึง 1 ใน 3 จากที่รับการประเมินคุณภาพ 7,985 แห่ง แต่มีผลไม่รับรอง 2,295 แห่ง ซึ่งล้วนแต่เป็นข่าวเชิงลบต่อการใช้เทคโนโลยีของเยาวชน แม้สถิติที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงที่ใช้เฟสบุ๊ค (Facebook) มากที่สุด หรือใช้แอพไลน์ (Line) ต่อเนื่องนานที่สุด ก็ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าเกิดการพัฒนาการศึกษาควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่เด่นชัด แต่จะเป็นคำถามว่าแทนที่จะเอาเวลาไปอยู่ในเฟสบุ๊ค หรือใช้สื่อสารในหลายรูปแบบ น่าจะหันไปสนใจการศึกษา และตัวบ่งชี้ที่จะทำให้การศึกษาของไทยมีคุณภาพเพิ่มขึ้นน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นำผลวิจัยมาแบ่งปันพบว่า ความเห็นของผู้ปกครองในภาพรวมมีความพอใจ และ ครูมีการใช้งานแท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอนเฉลี่ยสัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 55 นาที และได้ใช้แท็บเล็ตในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาหลักมากที่สุด คือ วิชาภาษาไทย ร้อยละ 56.05  สังคมศึกษา ร้อยละ 44.5 คณิตศาสตร์ ร้อยละ 42.7 วิทยศาสตร์ ร้อยละ 38.1 และภาษาอังกฤษ ร้อยละ 35.5 ปัจจุบันแท็บเล็ตสำหรับเด็กมีราคาไม่ถึง 5,000 บาท ซึ่งเชื่อได้ว่าผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยซื้อหามาใช้ที่บ้าน แล้วใช้งานนานกว่าที่โรงเรียนโดยการดูแลใกล้ชิดจากผู้ปกครอง เป็นอีกกลไกหนึ่งที่สนับสนุนนโยบายการศึกษาของภาครัฐที่จะส่งเสริมให้เด็กรู้จักประยุกต์ใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด

http://www.thaiall.com/blogacla/admin/2392/

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000029487

พงษ์เทพ บอกว่า ซุปเปอร์ฮีโร่มีแต่ในนิยาย

้have not the superhero
้have not the superhero

พงษ์เทพชี้ รธน.ปี2540 คิดผิด สร้างองค์กรอิสระบ้าอำนาจ

มีกฎที่เล่าต่อกันมาว่า
กฎข้อ 1 รธน. คือ กฎหมายสูงสุด
กฎข้อ 2 ถ้ามีอะไรขัดกับกฎข้อ 1 ให้ย้อนกลับไปดูกฎข้อ 1

1 มี.ค.56 องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา (USAID) ร่วมกับเว็บไซต์ประชาไท จัดสัมมนา 15 ปี องค์กรอิสระฯ สำรวจธรรมาภิบาลไทย สำรวจประชาธิปไตย โดยมีนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประเทศไทย พร้อมด้วยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะอดีตสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 (ส.ส.ร. 40) กล่าวในหัวข้อ “พัฒนาการองค์กรอิสระฯกับประชาธิปไตยไทย”

http://www.naewna.com/politic/43322

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า องค์กรอิสระกับธรรมาภิบาล ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ประเทศไทยต้องระดมความคิด เพื่อให้เกิดกลไกลการใช้อำนาจอย่างโปร่งใส องค์ที่น่าเชื่อถือที่สุด คือองค์กรตุลาการ แต่ที่ผ่านมาจะเห็นตัวอย่างต่างๆ มากมาย ทำให้มั่นใจว่าไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ตนเองถือเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำให้องค์กรอิสระเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นหนึ่งในการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ในขณะนั้น ส.ส.ร.40 คิดกันว่า จะทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดองค์กรในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างโปร่งใส โดยมีผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานในองค์กรอิสระ

“แต่ตอนนี้เชื่อว่า ส.ส.ร.ปี 40 คงคิดว่า การร่างรัฐธรรมนูญให้มีองค์กรอิสระเกิดขึ้น เป็นความคิดที่ผิดมาก ที่ทำให้เกิดองค์กรอิสระขึ้น เนื่องจากคนที่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ มีแต่ในนิยาย เพราะจะเห็นได้ว่า เมื่อคนเหล่านี้มีอำนาจอย่างล้นมือ จะใช้อำนาจฉ้อฉลแบบเบ็ดเสร็จ จนทำให้ไม่สามารถมีองค์กรใดเข้ามาตรวจสอบได้ เพราะรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ได้สร้างกลไกอย่างประหลาด โดยการที่รัฐสภา ไม่สามารถเรียกฝ่ายตุลาการ เข้ามาสอบถามการใช้อำนาจได้ ดังนั้น ต้องมาระดมความคิดกันว่า จะทำอย่างไรให้องค์กรอิสระ ยึดโยงกับประชาชนและสามารถตรวจสอบได้มากที่สุด”