คนไทยป่วยเป็นโรคไตเพิ่มปีละเป็นหมื่น

ลดเค็มก็ลดโอกาสเกิดโรคไต
ลดเค็มก็ลดโอกาสเกิดโรคไต

อึ้ง! คนไทยป่วยไตเพิ่มปีละหมื่น “เหนือ-อีสาน” สภาพแวดล้อมเอื้อเป็นนิ่ว
ย้ำลดเค็มลดเสี่ยงได้

นาวาอากาศเอก นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มผู้ป่วยโรคไตมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีเฉลี่ยประมาณปีละ 1 หมื่นราย จากข้อมูลล่าสุดพบคนไทยป่วยเป็นโรคไตร้อยละ 17.5 ของประชากร หรือประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งมีตั้งแต่ระยะต้นไปถึงระยะท้าย สิ่งสำคัญคือผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มระยะท้ายที่ต้องล้างไต ฟอกเลือด ประมาณ 4 หมื่นคน จะใช้ค่าใช้จ่ายสูงอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อคนต่อปี สำหรับสัดส่วนการเกิดโรคไตยังคงมาจาก 2 โรคหลัก คือ เบาหวานและความดันโลหิตสูง และยังมีสาเหตุจากโรคอื่น เช่น นิ่ว การรับประทานยาบางชนิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นต้น ทั้งนี้ จะพบประชากรที่ป่วยด้วยโรคนิ่วและทำให้เกิดโรคไตชุกในภาคเหนือและภาคอีสาน แม้จะยังเป็นรองจากความดันและเบาหวาน แต่ก็ถือเป็นปัจจัยที่ต้องระวังในประชากรกลุ่มนี้

ความชุกในการเกิดโรคนิ่ว ที่เป็นความเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไตเรื้อรังในภาคเหนือ และภาคอีสาน ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมที่มีความผิดปกติของเกลือแร่บางอย่าง และสภาพอากาศที่ร้อนจัด เมื่อดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะทำให้เกิดปัสสาวะข้น และเป็นสาเหตุการเกิดโรคนิ่วขึ้นได้ และยังพบว่า มีส่วนมาจากพันธุกรรมของประชากรในภาคเหนือและอีสานด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดยังเป็นเรื่องของความดันโลหิตและเบาหวาน จึงต้องควบคุมน้ำหนักและลดเค็มเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคไตด้วย” นาวาอากาศเอก นพ.อนุตตร กล่าว

นาวาอากาศเอก นพ.อนุตตร กล่าวว่า สำหรับประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังด้วยวิธีฟอกเลือด เมื่อเปรียบเทียบกับการล้างไตผ่านช่องท้องนั้นงานวิจัยทั่วโลกและประเทศไทย พบว่า มีอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อน และอัตราการเสียชีวิตใกล้เคียงกัน และจะมีข้อดีและข้อเสียในการรักษาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเอง เช่น ความสะดวกในการเดินทาง การช่วยเหลือตนเอง โดยพบว่ากลุ่มผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้อง จะเหมาะกับคนอายุไม่มากนักสามารถดูแลตัวเองได้ เพราะสามารถทำได้ด้วยตนเองทุกวัน และอาจเหมาะกับผู้ป่วยในบางจังหวัด ซึ่งเครื่องล้างไตไม่เพียงพอ เพราะไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาลทุก 3 วัน
http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9560000029980

โพลล์หลายค่ายได้ผลสำรวจไม่ตรงกับความจริง ในเลือกตั้งผู้ว่ากทม.56

vote ออกเสียง
vote ออกเสียง

โพลล์พลาดครั้งที่ 2
จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั้งก่อนเลือกตั้ง และ exit poll ในการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 เวลา 8.00น. – 15.00น. พบว่าสำนักโพลล์เกือบทุกแห่งสรุปผลว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จะได้รับคะแนนเสียงสูงสุด แต่หลังจากนับคะแนนอย่างเป็นทางการ ผลที่ได้คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้คะแนนเสียงสูงสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ผลสำรวจผิดพลาดจากการสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ
+ http://news.mthai.com/bangkokelection2013

สวนดุสิตโพล ผู้ว่ากรุงเทพฯ 2556
สวนดุสิตโพล ผู้ว่ากรุงเทพฯ 2556

โพลล์พลาดครั้งที่ 1
ครั้งแรกนั้นเกิดในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 24 ของประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 ผลโพลล์สำหรับพื้นที่เป็นกรุงเทพฯ มีการเผยแพร่ว่าผลสำรวจที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับเลือกเป็นจำนวนที่มากกว่า แต่เมื่อผลออกมาอย่างเป็นทางการพบว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ 23 เขต และพรรคเพื่อไทยได้ 10 เขต จากทั้งหมด 33 เขตในกรุงเทพฯ
+ http://hilight.kapook.com/view/60420
+ http://www.siamintelligence.com/thai-general-election-2011/

กรุงเทพฯ โพลล์ ผู้ว่ากทม. 2556
กรุงเทพฯ โพลล์ ผู้ว่ากทม. 2556

ผลสำรวจของดุสิตโพลล์ 2556
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กรณี  “การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในสายตาของคนกรุงเทพฯ” จำนวน 3,214 คน โดยกระจายครบทั้ง 50 เขตเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 26-30 มกราคม 2556 สรุปผล ดังนี้

อันดับ 1    พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ    41.00%
อันดับ 2    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร    36.12%

อันดับ 3    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส      6.88%
อันดับ 4    นายโฆษิต สุวินิจจิต      0.97%
อันดับ 5    นายสุหฤท สยามวาลา      0.53%
*    ยังไม่ตัดสินใจ    13.93%

+ http://www.krobkruakao.com/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1/

นิด้าโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556
นิด้าโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556
บ้านสมเด็จโพลล์ และเอแบคโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556
บ้านสมเด็จโพลล์ และเอแบคโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556