ลดความอ้วนแบบง่ายๆ อย่างได้ผล

20 ไอเดียง่ายๆ ที่ช่วยคุณ ที่ลดความอ้วนอย่างได้ผล

ลดความอ้วนให้ได้ผล ก็ต้องออกกำลังกายตามโปรแกรม รับประทานอาหารอย่างระวัง แต่สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก เพราะชีวิตยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำมากมาย

fitness dance
fitness dance

ทำ 20 ต่อไปนี้  ทำแล้วให้ผลในเรื่องของการลดน้ำหนัก

1. อย่าปล่อยให้ปริมาณอาหารกำหนดการกินของคุณ
เพราะปริมาณอาหารไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายต้องการ ทุกมื้ออาหารควรทานให้อิ่มพอดีๆ อย่าให้ถึงกับรู้สึกอึดอัด และไม่ต้องเสียดายอาหารที่เหลือในจาน แต่ให้คิดเสียว่าอาหารที่เหลือต่อวัน คือแคลอรีที่คุณสามารถลดได้

2. หาน้ำดื่มทุกครั้งก่อนที่คุณจะหาขนมนมเนยเข้าปาก
ถ้าทำได้ วิธีนี้จะช่วยคุณได้มากทีเดียว ทั้งลดความอ้วนและประหยัดค่าขนมไปในตัวด้วย

3. กฎเหล็กของการลดความอ้วนคือ การตัด ABC ออก
A หมายถึง Alcohol (แอลกอฮอร์)
B หมายถึง Bread (ขนมปัง)
C carbohydrates (คาร์โบไฮเดรต)

4. ปล่อยให้ตู้เย็นโล่งสะอาดตา
โดยหาเพียงสิ่งที่ทานแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือทานแล้วช่วยให้คุณดูสวยขึ้น เช่น หาผลไม้หรือน้ำผลไม้ประดับตู้เย็นแทนขนมเค๊ก นมพร่องไขมันเนย และน้ำแร่แช่แทนน้ำอัดลม และที่สำคัญ ควรหาภาพนางแบบหุ่นดีๆ ใส่เสื้อผ้าโชว์สัดส่วนโค้งเว้า มาติดตู้เย็นแทนแม่เหล็กที่แถมจากร้านอาหาร

5. ทานอาหารเช้าเป็นประจำ
เพราะอาหารเช้าสามารถช่วยให้คุณทานอาหารมื้ออื่นๆ ได้น้อยลง

6. ผลวิจัยบอกว่า การได้ฟังดนตรีเพลงโปรด (ต้องเพลงช้าๆ นะ)
เปรียบเสมือนได้รับประทานอาหารรสเยี่ยม ทีนี้เมื่อคุณเกิดอาการอยากอาหาร ให้ลองเปลี่ยนมาฟังเพลงเพราะแทน

7. เตือนความจำตัวเองด้วยการนำชุดตัวเก่งที่คุณใส่ได้เมื่อครั้งยังผอม แขวนในตู้เสื้อผ้า
ที่คุณสามารถเห็นได้ชัดทุกวัน เพื่อเตือนความจำให้คุณอยากกลับมาใส่ชุดนี้อีกครั้ง

8 .เมื่ออยู่ห้องแอร์เย็น ๆ ให้หาน้ำขิงหรือชาเขียวดื่มแทน กาแฟ
กาแฟหนึ่งถ้วย เปรียบเสมือนทานข้าวไปสองจาน น่าตกใจไหมล่ะ

9. นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่
เพราะผู้หญิงเรา หากได้นอนหลับเพียงพอ ร่างกายจะสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้มากขึ้นจากปกติถึง 40% เชียวนะ

10. ก่อนเข้าซุปเปอร์มาเก็ตทุกครั้ง ควรจดรายการที่ต้องการ
แล้วซื้อตามรายการที่จด แทนการเลือกซื้อแบบตามใจฉันจะนึกออก ณ ตอนนั้น หากตั้งใจช้อปของไม่มาก แนะนำให้ถือตระกร้าแทนรถเข็น เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณได้ออกแรงแล้ว ยังช่วยไม่ให้คุณเลือกซื้อของเกินรายการที่ต้องการอีกด้วย

11. หลีกเลี่ยงการอยู่หรือทำงานในเวลากลางคืน
เนื่องจาก แสงของยามค่ำคืนและการนอนดึกจะยิ่งทำให้คุณอยากทานของจุกจิก หรือหิวระหว่างคืนได้ แต่หากคุณต้องการดูหนังในเวลากลางก็สามารถทำได้ด้วยการเปิดไฟดวงน้อย เมื่อหนังจบก็สามารถดับไฟนอนได้เลย

12. เปลี่ยนขนมจุกจิกเป็นลูกอม
เพราะลูกอมมีแคลอรีเพียง 20 แคลอรี และสามารถช่วยให้คุณหายหิวได้ถึง 20 นาที

13. เติมความสดชื่นด้วยชาเขียว
เพราะชาเขียวสามารถทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น ควรหาชาเขียวมาดื่มร้อนๆ สักสามถ้วยต่อวัน

14. ทำเรื่องกินให้เป็นเรื่องใหญ่ โดยไม่ทานอาหารในขณะที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆ
เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือ หรือเล่นอินเทอร์เน็ต หากต้องการกิน ก็ควรนั่งกินบนโต๊ะอาหารอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

15. หาเวลาสัก 20 นาทีต่อวัน
สำหรับการเดินเล่น ชมสวน หรือนั่งเล่นท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ วิธีนอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยเผาผลาญแคลอรีต่อวันได้อีกด้วย

16. ใช้บันไดแทนลิฟ
หากคุณทำงานหรือเรียนอยู่บนชั้นสูงๆ ให้ขึ้นลิฟไปถึงก่อนชั้นทำงานหรือชั้นเรียนอย่างน้อย 2 ชั้นที่เหลือให้ใช้บันไดแทน

17. ปลดปล่อยอารมณ์ให้สุดเหวี่ยงขณะขับรถ
โดยการฟังเพลงแดนซ์เพลงโปรดของคุณ ร้องออกมาดังๆ แล้วขยับร่างกายตามจังหวะเพลง ไม่ต้องไปสนใจใครหรอก โดยเฉพาะหากรถยังแล่นอยู่

18. ยุ่งนัก หาเวลาออกกำลังไม่ได้ ให้หาถุงเท้าใส่อยู่บ้านแล้วโลดแล่นให้ทั่วพื้นบ้าน
จินตนาการว่ากำลังเล่นสเก็ตอยู่ เพียง 10 นาทีก็ช่วยคุณเผาผลาญแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีเชียวนะ

19. หาวีดีโอหรือวีซีดีออกกำลังกายสักหนึ่งชุด
แล้วเปลี่ยนห้องของคุณให้กลายเป็นเฮ็ลท์คลับส่วนตัว เปิดแอร์ได้ไม่ว่ากันค่ะ

20. เปลี่ยนนิสัยขี้เกียจ แล้วเริ่มหัดทำงานบ้านเสียบ้าง
เพราะทุกสิ่งที่คุณทำล้วนเปรียบเสมือนได้ออกกำลังกายและเผาผลาญแคลอรีในตัว

ขอบคุณข้อมูล สนุกดอทคอม (Sanook.com)

http://www.suksabay.com/p/150/20-%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5.html

คอลลาเจนผงแบบชงดื่ม ช่วยให้ผิวขาวใสได้จริงหรือไม่

ต้องบอกก่อนว่าคอลลาเจนที่หลาย ๆ คนสงสัยว่ามันคืออะไร แท้จริงแล้วมันก็คือ โปรตีนธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในร่างกายเราถึง 75% มีลักษณะเป็นเส้นสายใยที่มีความยืดหยุ่นได้ดีซึ่งทำงานร่วมกันอีลาสติน ทำหน้าที่ปกป้องรองรับไปจนถึงเชื่อมอวัยวะต่าง ๆ อาทิ กระดูก เอ็น เนื้อ เล็บ ทั้งยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึงได้อีกด้วย

ซึ่งคอลลาเจนในรูปแบบผงที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะสกัดมาจากปลาทะเล น้ำลึก เปลือก เกล็ดหรือส่วนต่าง ๆ จากสัตว์ทะเลผสมรวมกับกลูต้าไทโอน วิตามินซี วิตามินอีและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งก็แตกต่างกันออกไปตามแต่ละแบรนด์ที่ได้กำหนดและคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นอีกทางเลือกในการดูแลผิวให้สวย มีสุขภาพดี สดใสด้วยคอลลาเจน

ข้อดีที่น่าสนใจของคอลลาเจนแบบชงดื่มนั่นก็คือ วิธีการกินของมันไม่ยุ่งยาก เพียงผสมกับน้ำดื่ม แถมยังหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่สูงเมื่อเทียบเท่ากับวิธีการอื่น ๆ ส่วนข้อเสียที่ตามมาก็มีอยู่มากนั่นคือ ผลข้างเคียงของการกิน อาทิ หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ไตทำงานหนัก ซูบซีด ความดันผิดปกติ อันเนื่องมาจากตัวยาหรือสารสกัดบางตัวที่ผสมอยู่ในคอลลาเจน เป็นต้น

การกินคอลลาเจนผงแบบชงนั้น ก็ยังไม่มีบทสรุปอย่างเป็นทางการว่าจะช่วยทำให้ร่างกายและผิวขาวใสเต่งตึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทางที่ดีแล้วสาว ๆ ควรพิจาณาถึงผลดี ผลเสียของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแต่ละประเภทก่อนซื้อมาใช้  รวมไปถึงลองหันกลับมาดูแล เสริมสร้างคอลลาเจนตามวิถีธรรมชาติด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1.  ดื่มน้ำสะอาดต่อวันให้มาก ไม่น้อยกว่าวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยเติมให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอด

2. เน้นกินอาหารที่มีวิตามินและมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้ทุกชนิด เนื้อสัตว์ อาทิ ปลาทะเล ถั่วเหลือง สาหร่าย เห็ด เป็นต้น หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อย่างแป้ง ของทอด ของมัน

3. หลีกเลี่ยงการตากแดดหรืออยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา เพราะเหล่านี้จะเป็นตัวทำลายผิวให้หมองคล้ำ แห้งเสียขาดสมดุล

4. บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่นอย่างสม่ำเสมอด้วยครีมมอยส์เจอไรเซอร์

5. ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอในทุก ๆ วัน

จริง ๆ แล้วคอลลาเจนที่ดีและมีประโยชน์นั้น เราเองก็สามารถเสริมสร้างและเติมลงสู่ผิวได้ ไม่จำเป็นต้องไปซื้อคอลลาเจนสกัดจากที่ไหน ๆ มารับประทานให้เปลืองเงิน เพียงแค่ใช้เวลาและหันมาดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นอีกสักเล็กน้อย เราก็จะมีผิวสวย นุ่มเนียน ตึงกระชับแล้วหละค่ะ

อยากผิวดูเปล่งปลั่ง ลองใช้วิธีตบตาแบบนี้ (Lisa)

ขั้นตอนที่ 1 : บรอนเซอร์คือผลิตภัณฑ์จำเป็นในการสร้างความเปล่งปลั่งให้ผิวหน้า ซึ่งควรเลือกใช้แบบเนื้อแมตต์ (ที่ไม่ได้ผสมผงเรืองรองหรือชิมเมอร์) เพื่อจะได้ดูเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยลูบไล้จากบริเวณใบหูไปถึงมุมปาก พยายามเกลี่ยให้สีจางลงเรื่อย ๆ จนถึงมุมปาก

ขั้นตอนที่ 2 : เติมความแดงระเรื่อบนโหนกแก้มให้ดูสมจริง โดยจำเป็นต้องพึ่งบลัชออนในขั้นตอนนี้ ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งก็ควรเลือกใช้แบบครีม เพราะจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีกว่า แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวมันง่ายก็ควรเลือกใช้เนื้อแมตต์ เลือกโทนสีชมพูอมน้ำตาลจะทำให้ดูเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติได้ดีกว่า

ขั้นตอนที่ 3 : ใช้แปรงปัดแก้มอันใหญ่ ๆ ฟู ๆ เกลี่ยสีบรอนเซอร์กับบลัชออนให้มีสีกลืนกัน อย่าให้เห็นเป็นเส้นขอบตัดกัน ถ้าคุณอยากได้ความเปล่งปลั่งเรืองรองก็ควรย้ายไปเติมบริเวณดวงตา โดยใช้อายแชโดว์สีเมทัลลิค หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำไฮไลท์แตะแต้มบริเวณโหนกคิ้ว