แครอท..ผักสีส้มสารพัดประโยชน์

แครอท ผักสีส้มสารพัดประโยชน์ที่สามารถนำไปดัดแปลงเป็นอาหารได้หลายชนิด ไม่ว่าจะผัด ทอด แกง อีกทั้งยังสามารถกลายเป็นเครื่องดื่มแสนอร่อยได้อีกด้วย ทว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ นักกินเนื้อทั้งหลายที่ชอบเขี่ยแครอทในจานทิ้งอยู่เป็นประจำทราบหรือไม่ว่า ภายใต้สีสวย ๆ ของแครอทนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่ามากมายหลายอย่างที่คุณคาดไม่ถึง พูดอย่างเดียวอาจจะไม่เชื่อ วันนี้เราก็เลยนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแครอทมาเปิดเผยให้คุณได้รู้กัน

แครอท
แครอท

1. บำรุงสายตา

เพราะในแครอทอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน หนึ่งในวิตามินที่ร่างกายต้องการอีกทั้งมีประโยชน์ที่ช่วยในเรื่องของการ บำรุงสายตาของเราด้วย โดยเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า เรติน่า ซึ่งการที่คุณรับประทานแครอทบ่อย ๆ ยังช่วยถนอมดวงตาให้สามารถมองเห็นได้อย่างปกติไปอีกนานเท่านานเลยเชียวล่ะ

2. ป้องกันมะเร็ง

เป็นที่รู้กันดีว่าแครอทนั้นมีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันโรคมะเร็งโดย เฉพาะการก่อตัวของมะเร็งปอด ทั้งนี้เป็นเพราะในแครอทเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง ฟาลคารินอล ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น ควรใส่แครอทเป็นส่วนผสมในอาหารจากหลักของคุณด้วยนะ

3. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบไหลเวียนของเลือด

เนื่องจากผู้คนในปัจจุบันไม่ค่อยใส่ใจกับการทานอาหารสักเท่าไหร่ ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดอุดตันได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทานของหวานและของทอด ทั้งนี้สารในแครอทจะเข้าไปกำจัดไขมันที่เกาะสะสมอยู่ในเส้นเลือด ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น

4. รักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือด

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่และมีรูปร่างแบบใด ก็มีสิทธิ์ที่จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ เหล่านั้นก็ควรหมั่นทานแครอทอยู่เป็นประจำ เนื่องจากในแครอทมีสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งสารตัวนี้จะเข้าไปช่วยรักษาสมดุลระดับน้ำตาลในเส้นเลือดของคุณนั่นเอง

5. ปรับปรุงระบบย่อยอาหาร

สำหรับคนที่อยากจะมีหุ่นดี ๆ ฟิต แอนด์ เฟิร์มหรือคนที่อยากจะลดน้ำหนักล่ะก็ การทานแครอทถือเป็นตัวช่วยที่ดีเลยเชียวล่ะ เพราะแครอทจะเข้าไปเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานให้กับระบบย่อยอาหาร ซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น

6. บำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง

แครอท ยังมีสรรพคุณในเรื่องของการช่วยบำรุงผิวพรรณอีกด้วย เพราะทำให้ผิวชุ่มชื่น และดูเปล่งปลั่งอยู่เสมอ เพราะในแครอทชุ่มช่ำไปด้วยน้ำ เมื่อคุณทานเข้าไปก็เท่ากับว่าร่างกายได้รับน้ำเพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่เพียงเท่านั้น น้ำและสารอาหารของแครอทยังมีประโยชน์ในเรื่องของการบำรุงเส้นผมด้วย

7. เสริมความแข็งแรงของฟัน

แครอทไม่ได้มีประโยชน์แค่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายของคุณเท่านั้น เพราะยังช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของอวัยวะต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยในระหว่างที่คุณกำลังกัด ขบ เคี้ยวแครอท ถือเป็นการเสริมสร้างสุขภาพฟันให้ดีขึ้นด้วย ฉะนั้นในแต่ละมื้ออย่าลืมหยิบแครอทมาเคี้ยวกันด้วยนะ

8. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับภูมิคุ้มกัน

อีกหนึ่งประโยชน์ที่ร่างกายของคุณจะได้รับจากแครอทนั่นก็คือ การมีภุมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรง ทั้งนี้เป็นเพราะแครอทมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อีกทั้งมีคุณสมบัติในการสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเป็นปกติรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะกินแครอทแบบดิบ ๆ หรือผ่านการปรุงสุกมาแล้วก็ตาม

9. มีฤทธิ์ขับพยาธิ

สำหรับคนที่ต้องการขับพยาธิ ยาถ่ายอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป เพราะแครอทมีฤทธิ์ช่วยในการขับถ่ายพยาธิได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นการรักษาที่ไม่มีสารเคมีตกค้างในร่างกายด้วย รับรองเลยว่าเป็นยาที่ปลอดภัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่าลืมหามาทานกันนะ

10. ของว่างเพื่อสุขภาพ

ปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าแครอทสามารถนำไปประกอบอาหารคาวได้เพียงอย่าง เดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วแครอทสามารถนำมาทำขนมได้เหมือนกัน เช่น ขนมปังโฮลวีทแครอท หรือดื่มน้ำแครอทหวาน ๆ สักแก้วในระหว่างมื้อ สามารถช่วยดับหิวและดับกระหายได้ไม่ต่างจากขนมหวานและเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ เลย

เพราะมี ประโยชน์มากมายหลากหลายแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้แครอทเป็นผักยอดนิยมของผู้คนมากมาย สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองทานหรือไม่ชอบทานแครอท ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินสักหน่อย เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเองค่ะ

น้ำแครอท
น้ำแครอท

http://www.healthmee.com/ForumId-449-ViewForum.aspx

เรื่องของ..สาหร่ายทะเล

สาหร่ายทะเล เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอาหารเพื่อสุขภาพ และยังมีรสชาติที่อร่อย จึงนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารของเราที่มีให้เลือกทำได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะใส่สาหร่ายลงในแกงจืด หรือผัดผักต่างๆ นอกจากนี้ สาหร่ายทะเลยังมีแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายที่คนเราต้องการอยู่มากถึง 18 ชนิด อย่างเช่น แคลเซียม เหล็ก ไอโอดีน แมกนีเซียม และโซเดียม เป็นต้น แต่สารหาอารที่สาหร่ายมีมากเป็นพิเศษ และมีความสำคัญต่อร่างกายของเรา ได้แก่สารอาหารดังต่อไปนี้

ยำสาหร่ายทะเล
ยำสาหร่ายทะเล

ไอโอดีน โดยปกติแล้ว คนเราต้องการไอโอดีนประมาณ 0.1-0.3 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้าหากเราเทียบกับการกินสาหร่ายทะเลชนิดแผ่น ขนาดกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร มันก็จะเพียงพอต่อความต้องการ ของร่างกายเราในแต่ละวัน และช่วยในการป้องกันโรคคอพอกได้

สังกะสี เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์หลากหลายชนิดในร่างกาย ที่จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย

ใยอาหาร ยิ่งได้รับใยอาหารมากยิ่งทำให้ท้องของเราไม่ผูก และช่วยในการเร่งการขับถ่ายสารพิษภายในร่างร่างกาย ในระบบทางเดินอาหารของเราอีกด้วย

ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารที่มีอยู่มากในสาหร่ายทะเล มีส่วนช่วยให้บำรุงผิวพรรณของเราให้แลดูเปล่งปลั่ง แลดูมีน้ำมีนวล รวมทั้งยังช่วยในการบำรุงเส้นผมให้ดกดำเป็นมันเงางามขึ้นด้วยอีกนะ

ทองแดง มีหน้าที่ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก และช่วยในการสร้างฮีโมโกลบินที่ไขกระดูก ถ้าหากว่าร่างกายของเราเกิดขาดธาตุอาหารชนิดนี้ ก็จะทำให้เป็นโรคโลหิตจาง และเกิดผมร่วงได้ง่ายอีกด้วย

การทานสาหร่าย เราควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะว่าในสาหร่ายมีปริมาณโซเดียมที่สูง ผู้ที่เป็นโรคไตและความดันโลหิตสูงจึงควรระมัดระวัง ในการทานด้วย

สาหร่ายทะเล (Seaweeds)
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสาหร่ายเป็นแหล่งผลิตก๊าซออกซิเจนให้กับโลกของเราถึง 70% เลยทีเดียว นอกจากจะสร้างอาหารโดยการสังเคราะห์แสงแล้ว สาหร่ายทะเลก็สามารถ สร้างอาหารโดยการดูดซึม (osmosis) เอาแร่ธาตุและสิ่งมีประโยชน์ทั้งหลายโดยตรง มาจากทะเลด้วย ดังนั้นคุณค่า และคุณประโยชน์ของสาหร่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ น้ำทะเลเป็นสำคัญ แหล่งที่เก็บเกี่ยวสาหร่ายจึงจัดว่า มีความสำคัญอย่างมาก ในการพิจารณาถึงคุณประโยชน์ของสาหร่ายด้วย (คัดลอก จากนิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 21 ฉบับที่ 5 พฤษภาคม 2540)
สาหร่ายทะเล เป็นพืชชั้นต่ำ ไม่มีระบบท่อลำเลียงอาหารจากรากสู่ลำต้นและใบแบบพืชชั้นสูงเช่นหญ้าทะเล แต่จะใช้วิธีดูดซับน้ำและแร่ธาตุจากน้ำทะเลสู่เซลล์ต่าง ๆ โดยตรง พืชกลุ่มนี้ไม่มีดอกและผล แต่แพร่กระจายพันธุ์ด้วยการสร้างสปอร์และแบ่งตัว สาหร่ายทะเลมีลักษณะมากมายหลายแบบ ตั้งแต่แบบที่เป็นแพลงก์ตอนลอยไปมาในน้ำ ซึ่งมีขนาดเล็กมากมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า บางชนิดเป็นเซลล์เดี่ยว บางชนิดจับตัวกันเป็นกลุ่มเซลล์ หรือเป็นสาย จนถึงชนิดที่เป็นต้นดูคล้ายพืชชั้นสูง

สาหร่ายทะเล แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ตามโครงสร้างและสีของสารสังเคราะห์แสง ได้เป็น 4 กลุ่ม คือ
• สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (blue-green algae)
• สาหร่ายสีเขียว (green algae)
• สาหร่ายสีน้ำตาล (brown algae)
• สาหร่ายสีแดง (red algae)
โดยทั่วไป เราสามารถจำแนกกลุ่มสาหร่ายได้จากสีที่เห็น แต่ในประเทศไทยซึ่งอยู่ในเขตร้อนซึ่งมีแสงจัด บางครั้งสาหร่ายจะมีสีเปลี่ยนไปจากที่ควรจะเป็น

ประโยชน์ของสาหร่าย
• เป็นอาหารพื้นฐานของสัตว์ทะเล ทั้งที่กินสาหร่ายโดยตรง หรือที่กินสัตว์อื่นที่กินสาหร่ายอีกต่อหนึ่ง
• เป็นอาหารโดยตรงของคน ใช้ทำวุ้น เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางหรือเวชภัณฑ์ยาหลายชนิด

สาหร่ายทะเล มีแร่ธาตุซึ่งร่างกายมนุษย์ต้องการครบถ้วนแร่ธาตุ ซึ่งต้องการมีอยู่ 18 ชนิด อาทิ แคลเซียม คลอรีน โครเมียม โคบอลต์ ทองแดง (คอปเปอร์) ไอโอดีน เหล็ก แมกนีเซียม ซีลีเนียม โซเดียม ซัลเฟอร์ วาเนเดียม และสังกะสี (ซิงค์) เป็นต้น

ทำไมคนเกาหลีต้องกิน ซุปสาหร่าย ในวันเกิด

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไม เวลาดูละคร หรือ ซีรีส์ เกาหลี แล้วมีฉากงานวันเกิดของตัวละครในเรื่อง แทนที่จะยกเค้กวันเกิดมาฉลองกันตามธรรมเนียมสากล แต่เกาหลี กลับ ยก ‘ซุปสาหร่าย’มาให้แทน ! วันนี้มา เฉลยคำตอบที่สงสัยกันให้ฟังแล้วจ้า!!

ซุปสาหร่าย นั้น จะเป็นอาหารที่คนเกาหลี จะต้องกินในวันคล้ายวันเกิด เรียกว่าสำคัญกว่าขนมเค้กด้วยซ้ำ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ’ซุปสาหร่าย’ จะต้องทำขึ้นเพื่อมอบให้กับเจ้าของวันเกิดโดยใครสักคนในครอบครัว ดังนั้นจึงถือว่าสำคัญมากและห้ามลืมโดยเด็ดขาด

ที่มาของซุปสาหร่ายสำหรับวันเกิดคือ หญิงที่ตั้งครรภ์จะรับประทานซุปสาหร่ายเพื่อบำรุงร่างกาย เพราะสาหร่ายมีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมด้วยแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม และ ไอโอดีน ดังนั้นจึงเป็นอาหารชนิดแรกจากแม่สู่ลูกในครรภ์ นอกจากนี้หลังจากคลอดลูกแล้วจะต้องเตรียมซุปสาหร่าย พร้อมข้าวเพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำให้การคลอดนั้นราบรื่นปลอดภัย ปกปักษ์ให้ทารกนั้นสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืน รวมทั้งช่วยบำรุงให้คุณแม่มีน้ำนมมากๆด้วย

ดังนั้น การรับประทานซุปสาหร่ายในวันเกิดจึงเป็นการระลึกถึงอาหารมื้อแรกในชีวิตนั่นเอง

http://www.healthmee.com/ForumId-495-ViewForum.aspx

ลดค่าไฟ..

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การลดค่าไฟฟ้านั้นทำได้ง่ายแสนง่ายเพียงปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ด้วย 7 ข้อคำนึงที่ต้องลงมือปฏิบัติ รับรองบิลเดือนหน้า ลด..ลด..ลด..และลด!!!

ปิดหน้าจอคอมฯ เมื่อไม่ใช้งาน ประหยัดไฟถึง ร้อยละ 60
อย่าเสียบปลั๊กหม้อหุงข้าวทิ้งไว้ เพราะระบบอุ่นจะทำงานจะกินไฟมาก
ปิดทีวีเมื่อไม่ดู เพราะนอกจากสิ้นเปลืองส่งผลให้พังเร็วด้วย
ใช้เครื่องซักผ้า ต้องใส่ผ้าให้เต็มกำลัง จะมากจะน้อยก็เปลืองไฟเท่ากัน
ใช้บัลลาสต์ประหยัดไฟคู่กับหลอดผอมประหยัดอีกหลายตังค์
ปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลาเลิกใช้งานเล็กน้อย
ปลูกต้นไม้คลายร้อน รู้มั้ย? ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับแอร์ 1 เครื่อง (12,000 บีทียู)

ที่มา : กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000039539