ตรุษจีน

ตรุษจีน

ตรุษจีน คือ ประเพณีของจีน มีอีกชื่อหนึ่งว่า #เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วยวันลีชุน ซึ่งเป็นวันแรกตามปีปฏิทินจีน วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ในปฏิทินจีนโบราณและสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ด้วยเทศกาลโคมไฟ คืนก่อนตรุษจีนเป็นวันซึ่งครอบครัวจีนมารวมญาติ เพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นประจำทุกปี ซึ่งเรียกว่า ฉูซี่ หรือ #การผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน เนื่องจากปฏิทินจีนเป็นแบบสุริยจันทรคติ ตรุษจีนจึงมักเรียกว่า วันขึ้นปีใหม่จันทรคติ

การไหว้เจ้า คือ ประเพณีที่ชาวจีนยึดถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว นิยมทำกันในวันตรุษจีนเพื่อความเป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุขความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเองและครอบครัว โดยเชื่อกันว่า การใช้ชีวิตในแต่ละปีมักพบเจอสิ่งไม่ดีมารบกวนชีวิต เช่น การเจ็บไข้ การงานติดขัด ค้าขายไม่ดี ดังนั้นชาวจีนจึงหาที่พึ่งทางใจ ได้เกิดประเพณีการไหว้เจ้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และไหว้บรรพบุรุษ ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนขึ้น

โดยปกติวันตรุษจีน จะมีวันที่เกี่ยวข้อง และติดกัน 3 วัน ดังนี้ 1) วันจ่าย คือ วันสำหรับออกไปจับจ่ายอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่น มาเตรียมไว้ 2) วันไหว้ คือ วันที่ทำพิธีไหว้เจ้า เป็นวันสิ้นปีของจีน 3) วันตรุษจีน หรือ วันขึ้นปีใหม่ หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ คือ วันตรุษจีน

http://www.thaiall.com/calendar/calendar65.htm

เมื่อศิษย์น้องสื่อสารด้วยชุดอักษร พันธนาการแห่งปราณ

ปราณ คือ ลมหมายใจ ใน พันธนาการแห่งปราณ

การครั้งหนึ่ง
นั่นก็เนิ่นนานมาหลายทศวรรษแล้ว
ที่ผมได้รู้จักมักจี่กับ หมวย – สมจิต คูมณีปกรณ์
เป็นเพื่อนเฟสกันก็นานหลายปีดีดัก
ที่เรียกว่า ศิษย์น้อง
ก็เพราะอาจารย์อดิศักดิ์ จำปาทอง
บอกว่าหมวยเป็นศิษย์รุ่น 2 ของวิทยาลัยโยนก
หรือ มหาวิทยาลัยเนชั่น ในปัจจุับัน
ดังนั้นคำว่ารุ่น 2 คือ มีรหัสเริ่มต้นด้วย 32
ส่วนที่ผมเรียกตนเองว่า พี่
ก็เพราะมีรหัสเริ่มต้นด้วย 31 และเป็นรุ่นหนึ่งของสำนักนี้

กลับมาที่ชุดอักษร เล่มที่ได้รับจากศิษย์น้อง
เป็นงานแต่งขึ้น ในชื่อหนังสือ พันธนาการแห่งปราณ
คำว่า ปราณ
ถูกศิษย์น้องอีกคนให้ความหมายว่าคือ ลมหายใจ
จริงดั่งศิษย์น้องว่า
เราทุกคนถูกพันธนาการด้วย ลมหายใจ
หากสิ้นไร้ซึ่งลม หรือหยุดลมหายใจไว้ ณ เวลาใดแล้วไซร้
เราก็จะเป็นอิสระ จากร่างกายเก่า ๆ แก่ ๆ ตามวัย
ที่ครอบครองจะครบหกรอบในอีกไม่กี่ปีนี้
สักวันเมื่อหลุดจากพันธนาการของปราณ
จิตใจก็คงจะโบยบินออกจากกายหยาบไปสวรรค์นู้น

ในปกหลัง
ระบุว่านี่คือเรื่องราวของ อาจารย์น้อยผู้มาสอนธรรม
เธอเป็นหญิงสาว เพราะเห็นใช้คำว่า นาง
และน่าจะมีหน้าหมดตาใจ แก้มยุ้ยด้วย
แอบไปอ่านหน้าสุดท้าย พบว่า อาจารย์น้อย คนงาม
ตกล่องปล่องชิ้นกับหนุ่มหล่อเผ่าสวรรค์ มีจุ๊บจุ๊บด้วย
อันนี้จริงเท็จประการใดไม่รู้ ไม่ ส ป ร อ ย
เนื้อหาออกแนวจีน ๆ เยอะเลย ชื่อจีนทั้งเรื่อง
สิ่งหนึ่งที่เฉลย คือ ลมหายใจ ถูกเรียก ปราณ
เผ่าสวรรค์ เผ่ามาร ใครจะดี ใครจะร้าย
ใครพระเอก ใครพระรอง
ต้องไปหาอ่านกันเองนะครับ

ส่วนจะมีผู้กำกับ หรือผู้สร้างคนใด
หยิบหนังสือไปทำเป็นซีรี่ หรือภาพยนตร์แบบ
แปดเทพอสูรฯ หรือ สยบฟ้าฯ หรือ โปเยฯ หรือสิบสอง
อันนี้ต้องไปคุยกับนักเขียนศิษย์น้องท่านเอง
ส่วนผม
ถ้าจะติดต่อผมไปเป็นพระเอก พระรอง ศิษย์พี่ หรือมาร
อันนี้ติดต่อมาก่อนนะครับ แล้วผมจะดูคิวให้
พักนี้ไม่ค่อยว่างติดสอนหนังสืออยู่
และกำลังนั่งกรรมฐานยามจิตไม่ว่าง
หวังว่าจิตใจจะคลายทุกข์ได้โดยเร็ว
เผื่อว่าทุกข์หรือมาร เข้ามาจู่โจมเมื่อใดไม่รู้
จะได้คุมจิตได้ ไม่เตลิดเปิดเปิงไปกับทุกข์เช่นในอดีต
ทุกวันนี้ จิตไม่ค่อยจะวาง ปล่อยวางก็ไม่ค่อยจะลง
หายใจเข้า หายใจออก ฝึกปราณต่อไป

หนังสือเล่มนี้อ่านสนุก
เล่าให้ใคร ๆ ฟังว่าอ่านดีอย่างนู้นอย่างนี้
จนศิษย์พี่อีกท่านขออ่านบ้าง
ตอนนี้ เล่มที่ 48 (2nd)
ตกทอดไปถึงศิษย์พี่อีกคนแล้ว
ส่วนใครจะรอชมซีรี่ หรือภาพยนตร์
ตอนนี้ต้องอดใจรอกันไปก่อน
เหมือนหนัง marvel
ที่จะมีภาคต่อหรือไม่ ก็จะมีหลายปัจจัย

blogger

คุณครูในศตวรรษที่ 21 กับเวทีในสื่อสังคม

Facebook Fanpage

คุณครูในศตวรรษนี้ นอกจากสอนหนังสือ และดูแลครอบครัวแล้ว ยังต้องทำงานบริหาร ศึกษาหาความรู้นอกห้องเรียน ทำผลงานวิทยฐานะ ทำวิจัย นำเสนอผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ และถูกอ้างอิงได้ จึงต้อง มีตัวตน มีกลุ่ม มีเวทีแบ่งปันเรื่องราว สามารถเลือกได้หนึ่งใน 6 ประเภท ดังนี้ 1) ร้านค้า ธุรกิจ หรือ สถานที่ 2) บริษัท, องค์กร หรือ สถาบัน 3) แบรนด์สินค้า หรือ ชนิดของสินค้า 4) ศิลปิน ดารา วงดนตรี และตัวบุคคล 5) ธุรกิจความบันเทิง 6) เรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งครูยุคใหม่อาจสวมหมวกหลายใบ มีเพื่อนหลายกลุ่มตามหมวกที่ตนเองสวม ดังนั้นแต่ละท่าน จึงมีได้หลายแฟนเพจ เช่น คุณครูอาจมีธุรกิจส่วนตัว ทำบริษัทกับเพื่อน มีแบรนด์สินค้าของตนเอง อาชีพเสริมเป็นศิลปิน เปิดร้านอาหารกึ่งผับ หรือชอบเล่าเรื่องการออกกำลังกาย เป็นต้น ถ้าทุกเรื่องอยู่ในครูคนเดียว ก็จะต้องมีการแบ่งแฟนเพจตามเนื้อหาที่แตกต่างกัน

http://www.thaiall.com/facebook/fanpage.htm