ปัจจุบันคนไทยมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น โดยดูตัวเลขจากหน่วยงานของรัฐที่เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 ซึ่งนับว่าเร็วกว่าอีกหลายประเทศในเอเชีย จำนวนผู้สูงอายุไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 10% ของจำนวนประชากรในวัยทำงาน เป็น 23% ในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ใน ปี พ.ศ. 2575 แม้ว่าการมีอายุยืนมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ แต่วิถีการดำรงชีวิตก็เป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น การจะอยู่ให้ถึง 100 ปี จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากคุณลองทำตามคำแนะนำ 10 วิธีที่ทำให้ตัวเองอายุยืน ดังต่อไปนี้
1. กินอาหารทะเล
ประเทศไทยนับว่าโชคดีที่มีอาหารทะเลให้รับประทานตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทะเลอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา-3 ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง รวมถึงสุขภาพองค์รวมในทุกๆ วัย
2. ดื่มน้ำเยอะๆ
บางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย น้ำมีประโยชน์ต่อร่างกาย คุณควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรหรือ 8 แก้ว และจะยิ่งดีหากคุณเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ คาเฟอีน หรือน้ำตาล เพราะน้ำจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีอายุยืนถึง 100 ปีได้อย่างสบายๆ
3. ทำอาหารทานเอง
การทำอาหารรับประทานเอง ทำให้เราเลือกวัตถุดิบที่นำมาปรุงได้ ต้องปราศจากสารกันบูด และไม่มีน้ำตาลหรือเกลือมากเกินควร จะดีไปกว่านั้นหากเป็นพืชผักที่คุณปลูกไว้ทานเอง เพราะเมื่อเก็บมาสดๆ จะอุดมด้วยธาตุอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน คืนความเยาว์วัยให้สมองและร่างกาย
4. ออกกำลังกายอยู่เสมอ
มีงานวิจัยระบุว่า คนที่ออกกำลังกายพื้นฐานเป็นประจำ เช่น เดินสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง จะมีชีวิตยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย โดยเฉพาะในคนสูงอายุที่ไม่ยอมขยับเขยื้อน หากคุณยังคงกระฉับกระเฉง ควบคุมน้ำหนักให้พอดีกับเพศ อายุ และความสูง ก็จะทำให้อวัยวะต่างๆทำงานได้ดี ไม่ต้องกินยารักษาโรค และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะปัญหาสุขภาพของคนยุคนี้ ส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องกับวิถีการดำเนินชีวิต การมีสุขภาพดี จะทำให้บุคคลนั้นเกิดความรู้สึกดีไปด้วย และยิ่งรู้สึกดีมากเท่าไหร่ จะทำให้อายุยืนมากขึ้นเท่านั้น
5. โยนความเครียดทิ้งไป
อย่าเก็บความรู้สึกเครียดวิตกกังวลไว้กับตัวเองตลอดเวลา ต้องหาทางระบายออกเสียบ้าง เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้จักจัดการกับความเครียดซึ่งมีผลกระทบต่อ หัวใจ เมื่อเร็วๆ นี้มีงานวิจัยชี้ว่า ผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 50 ปีและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ที่มีปัญหาเรื่องความวิตกกังวล มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น
6. ทำสมาธิ
ความเครียดเป็นสิ่งที่สะสมได้ เช่นเดียวกับความสงบในจิตใจ การใช้ชีวิตของคนเรา ก็เหมือนการขับขี่รถยนต์ หากคุณไม่แวะเติมน้ำมันบ้างตลอดเส้นทาง เมื่อน้ำมันในถังหมด รถก็จะวิ่งไม่ได้ ชีวิตก็เช่นกันที่นอกจากจะต้องกินอาหารเพื่อให้มีเรี่ยวแรงแล้ว ยังต้องดูแลจิตใจให้อยู่ในสภาพที่ดีด้วย ลอง หาเวลาสวดมนต์ ทำสมาธิ ฝึกหายใจ หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกสงบและเกิดภาวะสมดุลของร่างกายและจิตใจ คุณจะรู้สึกได้ถึงความเครียดที่เริ่มจางหายไป ความสงบจะเข้ามาแทนที่ ซึ่งเมื่อทำเป็นประจำทุกวัน ไม่เพียงทำให้มีความสุขสงบ หากแต่อายุจะยืนยาวขึ้นด้วย
7. ทำงานที่รักและถนัด
ถ้าเลือกได้ จงทำงานที่รักและมีความถนัด เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้ดูแก่เร็วไปกว่าการต้องทนทำงานที่ไม่ได้ชอบ หรือไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานที่ทำอยู่ เพียงแค่หาหนทางนำจุดแข็งที่มีมาใช้และกำจัดจุดอ่อน แล้วจะเห็นว่า ยิ่งเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มากเท่านั้น
8. ลองทำสิ่งใหม่ๆ
ความหลากหลายเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้ชีวิต และเมื่อคุณให้โอกาสตัวเอง สมองก็สามารถเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แม้จะมีอายุ 100 ปีแล้วก็ตาม หาก เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต จะทำให้สมองตื่นตัว เช่น ปกติถนัดมือขวา ให้ลองเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายหยิบจับสิ่งของหรือทำภารกิจประจำวันเป็นครั้ง คราว วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นสมองให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะเมื่อทำแต่สิ่งเดิมๆ สมองจะเชื่อยชา และหากปล่อยไปเรื่อยๆ ก็ยากที่จะกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง
9. อารมณ์ดีเสมอ
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้มีชีวิตยืนยาวได้ถึง 100 ปี คือ ต้องตระหนักรู้ว่าสิ่งภายนอกมีผลกระทบต่อจิตใจ อารมณ์ขณะนั้นเป็นตัวสร้างสถานการณ์ คนที่เข้าใจตรรกะนี้จะดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น ปราศจากความเครียด และไม่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์กดดันภายนอก
10. คิดบวก
พลังความคิดด้านบวกจะช่วยเยียวยา กระตุ้นให้เกิดพลังกายพลังใจ มีความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้มีความสุขในชีวิต สิ่งที่เราบอกกับตัวเองและได้ฟังจากคนอื่น ล้วนมีผลต่อการดำเนินชีวิตของเรา ทั้งทางด้านร่างกาย ความคิด และจิตวิญญาณ
เมื่อถามคนทั่วไปที่อายุยืนและสุขภาพร่างกายแข็งแรงว่า อยากมีอายุยืนยาวแค่ไหน พวกเขามักตอบว่า “ตราบเท่าที่ยังมีความสุขใจ” นี้เป็นพื้นฐานสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอยู่กับการมีสุขภาพทางความคิดที่ดี ซึ่งจะทำให้อายุยืนยาวถึง 100 ปีเลยทีเดียว