ที่สุดกับ 3.9G โดยทีโอที (itinlife318)

26 พ.ย.54 การเชื่อมต่อของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบไร้สาย มีผู้ให้บริการพัฒนากันอยู่ตลอดเวลา มีความฝันว่าเราจะเชื่อมต่อได้เร็วยิ่งขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คำว่า 4G ยังเป็นความฝัน แต่ที่เร็วที่สุดในปัจจุบันเราสามารถไปถึงยุค 3.9G มีผู้ให้บริการรายแรกคือ TOT ซึ่งจัดงานแถลงข่าว เปิดตัว 3.9G ไปแล้ว ใช้ความถี่ 2100 MHz ด้วยเทคโนโลยี HSPA+ มีความเร็วถึง 42 Mbps เริ่มบริการพฤศจิกายน 2554 และจังหวัดลำปางเป็นหนึ่งใน 18 จังหวัดที่เริ่มเปิดให้บริการ และจะขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศในพฤษภาคม 2555 มีข้อมูลเผยแพร่ใน http://www.tot3g.net
จุดเด่นของ 3.9G คือโทรศัพท์เห็นหน้ากันแบบไม่สะดุด ตอบรับกระแสเครือข่ายสังคม (Social Network) ที่ใช้งานผ่านอุปกรณ์รุ่นใหม่ อาทิ สมาร์ทโฟน หรือแทบเล็ต ส่วนค่าบริการขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งาน ตัวอย่างแพกเกจกลุ่ม Super Load 3G เริ่มต้น Load Silver คือ จ่าย 250 บาทต่อเดือนโทรเห็นหน้าได้ 30 นาที และดาวน์โหลดได้ 700 MB หากใช้แพกเกจที่จ่ายแพงขึ้นก็จะได้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น ถ้าเน้นการโทรศัพท์มากกว่าดาวน์โหลดก็จะมี City Silver คือ จ่าย 250 บาทต่อเดือน โทรได้ 200 นาที แต่ดาวน์โหลดได้ 100 MB เท่านั้น
สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ราคาเครื่องละไม่เกิน 1,000 บาท คงไม่เหมาะที่จะใช้บริการ 3G เพราะโทรศัพท์ที่ TOT แนะนำล้วนมีราคาสูงกว่านับสิบเท่า อาทิ Nokia N9, Samsung Galaxy Note, BlackBerry PlayBook, Sony Ericsson Xperia Arc S, iPhone 4s, LG Optimus Pad แต่ถ้าจะหาอุปกรณ์ที่รองรับ 3.9G ในระดับความเร็ว 42 Mbps อาจต้องอดใจรออีกสักพัก เพราะการผลิตอุปกรณ์ และการนำเข้ายังไม่แพร่หลายในประเทศไทย ต่อไปเวลาโทรศัพท์คุยกับแฟนก็จะได้รู้แล้วหละว่าอยู่ที่ทำงานจริง หรือไปลั่นล้าที่ไหน เพราะผู้รับโทรศัพท์สามารถเห็นบรรยากาศโดยรอบเป็นหลักฐานมัดตัวคุณผู้ชายที่ ชอบแว็บไปไหนต่อไหน แล้วบอกว่าติดประชุม ซึ่งเป็นข้อเสียอีกข้อหนึ่งที่คุณผู้ชายอาจไม่เลือกใช้บริการนี้


http://www.youtube.com/watch?v=n-GVpf4Bork

3.9G คืออะไร (itinlife 317)

19 พ.ย.54 ปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตของคนทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนต้องพก 2 เครื่อง เพื่อใช้ในการทำงาน และใช้ส่วนตัว ส่วนนักเรียน นักศึกษาเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่ถูกยอมรับว่ามีกำลังซื้อสูงสุด เพราะเปลี่ยนมือถือตามแฟชั่น ผู้ผลิตออกรุ่นใหม่มาเป็นต้องเกาะกะแสไม่เคยพลาด ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่จะเปลี่ยนแต่ละทีคิดแล้วคิดอีก กำเนิดของโทรศัพท์เกิดในปีพ.ศ.2419 โดยนักประดิษฐ์ชื่ออเล็ก ซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander  Graham  Bell) แล้วในปี พ.ศ. 2420  โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas  Alwa  Edison) ก็นำมาพัฒนาต่อจนสามารถใช้งานได้จริง สำหรับประเทศไทยเริ่มใช้โทรศัพท์ในปีพ.ศ.2450 โดยกรมไปรษณีย์โทรเลขได้นำเครื่องโทรศัพท์ระบบไฟกลาง (CENTRAL BATTERY: CB)  ติดตั้งเครื่องชุมสายระบบไฟกลางวัดเลียบ ซึ่งเป็นเครื่องชุมสายแห่งแรกในประเทศไทย

แต่ละยุคมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ยุคแรก หรือ 1G ใช้ Cellular ที่ยังเป็น Analog มาเป็นยุค 2 G ใช้ GSM ที่เริ่มเป็น Digital แล้ว ยุค 2.5 ใช้ GPRS ยุค 2.75G ใช้ EDGE ยุค 3G ใช้ WCDMA ยุค 3.5G ใช้ HSDPA ยุค 3.9G ใช้ HSDPA+ โดยสรุปแล้ว 3.9G เร็วกว่า 3G กว่า 20 เท่า แล้ว 3G ก็เป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยไปแล้ว ส่วน 4G ยังเป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่เกิดขึ้นในโลก ดังนั้นเราไปได้ไกลสุดก็เพียง 3.9G

ถ้าเราใช้ 3.9G ก็จะเป็นประเทศแรก ๆ ในอาเซียน และให้บริการระยะเดียวกับญี่ปุ่น ระบบนี้ใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz เป็นคลื่นความถี่สากล โดยเราเป็นประเทศที่ 24 ของโลก และเป็นประเทศที่ 4 ของเอเชียที่ใช้คลื่นนี้ ถ้ามีโทรศัพท์ที่รองรับ 3.9G คือ รองรับ HSDPA+ ก็จะโทรศัพท์แบบเห็นกันได้   เล่นอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วถึง 42 Mbps แต่โทรศัพท์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ยังหาได้ยากในท้องตลาด และมีราคาสูง ซึ่งเชื่อได้ว่าอีกไม่นานเราก็จะได้ใช้ 3.9G กันทุกคน เพราะถ้าผู้ส่งต้องการเห็นภาพของเรา แต่โทรศัพท์ของเรายังเป็นจอสีเดียว คงสื่อสารกันไม่สนุก แล้วเวลานั้นก็คือเวลาที่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์อีกครั้ง

http://www.thailand39g.com

http://www.39gthailand.com