ไม่ชอบดื่มน้ำ ถึงตายได้เชียว เสี่ยงกับโรคร้าย

ใครทำงานเพลิน ๆ  แล้วดื่มน้ำน้อย
ถ้าบางคนทำงานจนลืมแม้กระทั่งการดื่มน้ำ  ต้องระวังนะค่ะ
6 โรคร้ายที่จะตามมา เมื่อเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ
คือ สมองเสื่อม ริดสีดวงทวาร ปวดข้อ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อ้วน ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
มีรายละเอียดที่แชร์ของเค้ามา ลองอ่านดูได้นะ

bb1

1. สมองเสื่อม

ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ

จึงอาจเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือย ๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึน ๆ มึน ๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ

2. ริดสีดวงทวาร

แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง

มีคำแนะนำว่า “ตื่นเช้ามา” ก่อนทำอะไรก็ดื่มน้ำซะขวดนึง

3. ปวดข้อ

เชื่อหรือไม่ ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก

4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ

5. อ้วน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจทำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ

6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ

ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง

3  สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย

หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก

 

1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด

 

แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อยคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ

เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป

หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวันค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้างนะคะ

digi2

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก สสส และ   http://health.sanook.com/4557/

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

น้ำส้มปลอมของคนไทย (อาหารปลอม #1)

น้ำส้มปลอม
น้ำส้มปลอม

อ่านเดลินิวส์ 24 พ.ค.59 เตือน .. พี่ไทยก็ไม่น้อยหน้า
หนุ่มพ่อค้ารถเข็นหลอกขาย “น้ำส้มปลอม” ย่านเกษตร
น้ำส้มคั้นปลอม ขายขวดละ 20 บาท
http://www.dailynews.co.th/regional/399824

ข่าวโพสต์ทูเด 23 พ.ค.59 จับหนุ่มสาวเวียดนาม
นำหัวเชื้อน้ำส้มผสมน้ำประปากรอกใส่ขวดขาย
แต่งรสหวานจากสารขัณฑสกรหรือสารใช้แทนน้ำตาลและสีส้ม
บรรทุกใส่รถเข็นออกเร่ขายไปทั่วเมือง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
http://www.posttoday.com/social/hot/433424

ข่าวสด 27 พ.ค.59 ที่สระบุรี
ผสมสี และสารกันบูดเกินมาตรฐาน
ซึ่งสี กับสารกันบูดพอจะรับประทานได้ แต่มากไปก็ไม่ดี
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1464359933

ไทยรัฐนิวส์โชว์ คลิ๊ปคนเวียดนามทำน้ำส้มปลอม

มารู้จัก ขัณฑสกรหรือแซกคาริน (saccharin)
เป็นสารสังเคราะห์ที่ให้รสหวานที่มีความหวาน
สูงกว่าน้ำตาลถึง 300-700 เท่า รสหวานจัด บางคนอาจรู้สึกได้รสขมด้วย
สารนี้ไม่ให้พลังงาน จึงนิยมนำไปใช้ในอาหารควบคุมน้ำหนักพลังงานต่ำ
รวมทั้งในน้ำอัดลมและน้ำหวานต่าง ๆ
แต่สำหรับในประเทศไทยนั้นไม่อนุญาตให้ใช้ขัณฑสกรในเครื่องดื่ม
สำหรับด้านความปลอดภัยของการบริโภคขัณฑสกรก็เป็นปัญหาหนึ่ง
ซึ่งนักวิชาการได้ถกเถียงกัน เช่นเดียวกันกับไซคลาเมต
ได้มีการทดลองพบว่า ขัณฑสกรสามารถทำให้เกิดโรคมะเร็ง
ในกระเพาะปัสสาวะของสัตว์ทดลอง
บางประเทศจึงได้ประกาศห้ามใช้สารนี้ผสมอาหาร
https://www.doctor.or.th/article/detail/4339

 

รายการเขย่าข่าวเข้ม

โอสถสภา ถอนโฆษณาเปปทีนหลังสคบ.สั่งระงับ

peptien
peptien

โฆษณา คือ การประกาศสินค้าหรือบริการที่ต้องการให้ประชาชนโดยทั่วไปได้รู้จักสินค้าหรือการบริการนั้น แล้วนำไปสู่การตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการในที่สุด ปัจจุบันเนื้อหาในโฆษณาอาจไม่เป็นความจริงเสมอไป ผู้รับสารต้องใช้วิจารณญาณ

สคบ. สั่งระงับโฆษณาเครื่องดื่มยี่ห้อดังที่มีประโยคเด็ด “อยากเป็นหมอ” ระบุ อ้างบำรุงสมองอาจทำผู้บริโภคเข้าใจผิด เมื่อดื่มแล้วสามารถสอบเข้าเป็นแพทย์ได้ ทำหนังสือถึงเจ้าของผลิตภัณฑ์ให้มาชี้แจงสัปดาห์หน้า ขณะที่ โอสถสภา ให้ความร่วมมือถอนโฆษณาเครื่องดื่ม ‘เปปทีน’ ที่มีนิสิต นศ.แพทย์ออก…

http://www.thairath.co.th/content/edu/360412

30 ก.ค.56 นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค.56 ได้หารือกับแพทยสภา และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถึงกรณีการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง ที่อ้างว่าช่วยบำรุงสมอง ทำให้สามารถสอบเข้าสถานศึกษาในคณะที่มีชื่อเสียง โดยเห็นว่าการโฆษณาดังกล่าวอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ สคบ.จึงทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ให้งดแพร่ภาพโฆษณาทันที พร้อมทั้งเชิญผู้บริหารให้มาชี้แจงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ว่ามีสรรพคุณตรงตามที่โฆษณาหรือไม่ รวมทั้งการโฆษณาดังกล่าวผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างถูกต้องหรือไม่ ประมาณสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ทางแพทยสภาและ อย.ได้สรุปผลการตรวจสอบ โดยตั้งข้อสังเกต 4 ประเด็นคือ เรื่องของการโฆษณาสรรพคุณของเครื่องดื่มชนิดดังกล่าว ที่ระบุว่า เมื่อดื่มแล้วทำให้สมองปลอดโปร่ง เติมความรู้ สร้างความจำให้ดีขึ้น และเมื่อดื่มแล้วสามารถสอบเข้าเป็นแพทย์ หรือทันตแพทย์ หรือคณะอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงได้นั้น เป็นการโอ้อวดคุณภาพเกินความจำเป็นหรือไม่, การจัดโครงการเตรียมสมอง พร้อมเข้าสู่การสอบทั่วประเทศนั้น ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างไรบ้าง มีวิธีการเข้าทดสอบความรู้เตรียมสมองอย่างไร

ขณะเดียวกัน การนำนักศึกษาที่ใส่ชุดประจำสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่งเข้าร่วมโฆษณา ได้ผ่านการอนุญาตจากสถาบันการศึกษานั้น ๆ หรือไม่ เบื้องต้นมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงสถานศึกษาหลายแห่ง และสุดท้ายการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ตามที่โฆษณานั้น โดยเฉพาะการสอบเข้าเรียนในคณะแพทย์ ผู้ที่ทำการสอบจะต้องมีความรู้เฉพาะด้านในสาขานั้นๆ หากโฆษณาไปโดยไม่ได้แจ้งข้อมูลรายละเอียดให้ครบถ้วน อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ เบื้องต้นมองว่าเข้าข่ายกระทำความผิดจริง ซึ่ง สคบ.ได้สั่งการให้กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา และคณะอนุกรรมการด้านโฆษณาได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว

ด้าน บริษัทโอสถสภา จำกัด ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าวที่ระบุว่า โอสถสภา ​โดย  นายประธาน ไชยประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทโอสถสภา จำกัด ทำหนังสือตอบกลับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ฯ เรื่องการขอความกรุณาระงับโฆษณาเครื่องดื่มเปปทีน ที่มีนิสิตแพทย์อยู่ในภาพยนตร์ โดยบริษัทฯ ยินดีให้ความร่วมมือ ในการถอนโฆษณาภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวออก ทั้งนี้เป็นเป็นการแสดงเจตนารมย์ของบริษัท  โดยหนังสือดังกล่าวถูกส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ฯ แพทยสภา สำนักงานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้ทุกฝ่ายรับทราบถึงแนวทางของบริษัทต่อไป.

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร กับการสูบ ดื่ม และกิน

แม้รู้สึกว่าภาพนี้เปลือยหมด
ไม่ปกปิดเลย เห็นไปถึงใส้ถึงพุง

smoke drink food
smoke drink food

ในละครแม้ตัวร้ายจะชนะเกือบทั้งเรื่อง
แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้หมดรูปตอนจบ

ในชีวิตจริงส่วนใหญ่เรามีความสุขกันทุกตอน
แต่ก็ไปพ่ายแพ้หมดรูปเอาตอนจบ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=355647757846524&set=a.160962820648353.40827.158264677584834


ยังมีบางคนอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ประพฤติตนเหมือนนางเอก อดทนเพื่อสุข
ค่อย ๆ กิน ค่อย ๆ ดื่ม รักษาสุขภาพให้อยู่ไปนาน ๆ
ยืดตอนสุดท้ายออกไปให้นานแสนนาน เท่าที่จะทำได้

มีคนเล่าว่า
สุขภาพดี ซื้อหาไม่ได้ ต้องทำเอง
น่าจะจริง เหนือความจริงใด ๆ

ภาพข้างล่างเป็นระดับของความสำเร็จ
เมื่อสำเร็จก็มักจะสูบ จะดื่ม จะกิน มากกว่าปกติ

success
success

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=511350935604197&set=a.144428752296419.34908.135349363204358

โฆษณาแบรนด์รังนกแท้ โลกทั้งใบ

โฆษณาแบรนด์รังนกแท้ โลกทั้งใบ


ดูโฆษณานี้แล้วประทับใจ
ผมว่าคนคิดโฆษณามองว่า
1. ผู้คนส่วนใหญ่ใส่ใจงานมากกว่าตนเอง
2. การดื่มแบรนด์เพื่อดูแลตัวเอง
สรุปได้ว่า .. อย่าหักโหมงานเกินไปนะครับ
ดื่มแบรนด์รังนกบ้าง เป็นการดูแลตัวเอง


ถ้าพรุ่งนี้คุณไม่ไปทำงาน
งานก็อาจมีคนทำแทนคุณ
คุณก็อาจเป็นใครคนหนึ่งบนโลกใบนี้
แต่สำหรับเขาคุณคือโลกทั้งใบ
.. เพราะคุณมีค่าเหลือเกินสำหรับคนที่คุณรัก

ข้อดีและข้อเสียของการดื่มเบียร์

เบียร์
เบียร์

เบียร์ เป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนติดใจเป็นหนักหนา เพราะรสชาติที่มันนุ่มลิ้นดีแท้ นักวิจัย กล่าวว่า เบียร์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดีต่อหัวใจ จากการวิจัยของมหาวิทยาลัย Emory กล่าวว่าผู้หญิงและผู้ชายสูงอายุ 2,200 คน ที่ดื่มเบียร์วันละ 1.5 แก้วต่อวัน จะมีการเสี่ยงต่อโรคหัวใจล้มเหลวลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ เบียร์ยังดีต่อสมองอีกด้วย นักวิทยาศาสตร์ในบอสตัน พบว่า
ผู้ที่ดื่มเบียร์ตั้งแต่หนึ่งถึง 6 แก้วต่อสัปดาห์ จนถึงผู้ที่ดื่ม 7-14 แก้วต่อสัปดาห์ จะเกิดอาการชักได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเลย แต่ถ้าผู้ที่ดื่มเกินกว่านี้ก็จะมีอาการชักได้มากที่สุด เพราะเบียร์สามารถช่วยลดขนาดเม็ดเลือดและไม่ทำให้เลือดไปครั่งที่สมองได้

วันนี้เรานำเกร็ดความรู้มีประโยชน์ และโทษของการดื่มเบียร์มาฝากกัน…

เริ่มจากประโยชน์ของเบียร์ก่อนเลยค่ะ

ประโยชน์ของเบียร์มีมากมายเลยทีเดียวค่ะ นอกจากจะมีสารต่าง ๆ มากกว่า 1,000 ชนิด อีกทั้งมีทั้งวิตามิน เกลือแร่ ที่ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อแข็งแรง ใครที่ชอบดื่มเบียร์คงจะถูกใจมิใช่น้อย เมื่อได้ยินว่า เบียร์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่จะมีข้อดียังไงก็ควรดื่มแค่ควรก็พอค่ะ วันนี้เราจึงแนะนำ ประโยชน์ของเบียร์ ให้ได้ศึกษาเอาไว้ ดังนี้

– ป้องกันโรคหัวใจ

จากการศึกษาของนักวิชาการพบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มเบียร์ 40 – 60% แต่ควรดื่มไม่เกินครึ่งลิตรต่อวัน

– ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์อัมพาต

สารที่มีประโยชน์ในเบียร์สามารถช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตันจึงช่วยป้องกันโรคอัมพฤกษ์อัมพาต

– ช่วยลดความดันโลหิต

แพทย์ชาวฮอลแลนด์และจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดค้นพบว่า การดื่มเบียร์ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

– ป้องกันเบาหวาน

ผู้ที่ดื่มเบียร์มีจำนวนน้อยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานเหตุผลก็คือ เบียร์ทำให้ร่างกายสามารถปรับฮอร์โมนอินซูลิให้ความทรงจำดีนักดื่มเบียร์จึง ไม่ค่อยเป็นโรคอัลไซเมอร์

– ช่วยให้กระดูกแข็งแรง

เบียร์ให้ผลดีต่อกระดูกสามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้แต่ได้ผลเฉพาะกับหนุ่มสาวเท่านั้น

– ช่วยให้อายุยืน

จากการศึกษามากกว่า 50 สำนัก พบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์วันละ 1 – 2 แก้ว มักจะมีอายุที่ยืนยาวเนื่องจากเบียร์มีสารปกป้องหัวใจ

– ป้องกันท้องร่วง

โมเลกุลในเบียร์มีส่วนประกอบเหมือนกันกับกรดนมและน้ำส้มสายชู สารที่ว่านี้ขัดขวางเชื้อโรคในลำไส้ที่เป็นสาเหตุของท้องร่วงไม่ให้แพร่ เชื้อจนท้องเสีย

– ต้านความเครียด

นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Montreal ค้นพบว่า คนทำงานที่ได้ดื่มเบียร์บ้างเป็นครั้งคราวมีความเครียดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเบียร์

– ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต

นักวิชาการจากเมืองเฮลซิงกิประเทศฟินแลนด์ค้นพบว่า การดื่มเบียร์วันละหนึ่งขวดก็จะได้รับแมกนีเซียมซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโรค นิ่วในไตได้ถึง 40%

– ป้องกันโรคนอนไม่หลับ

สารจากดอก Hops ใน เบียร์เปรียบเสมือนยานอนหลับจากธรรมชาติช่วยให้ประสาทผ่อนคลาย ดังนั้น การดื่มเบียร์หนึ่งแก้วในตอนเย็นจึงเหมือนกับการกินยานอนหลับ

– ช่วยต้านมะเร็ง

เบียร์มีสารโพลีฟีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันมะเร็งโดยการดักจับอนุมูลอิสระตัว ร้ายออกจากร่างกาย สารโพลีฟีนอยด์หลักก็คือ Xanthohumol ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาการของมะเร็ง

– ช่วยให้ผิวสวย

ในเบียร์มีวิตามินสูง เช่น Pantothenic Acid วิตามินบี 3 และไนอาซินซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ช่วยสร้างคอลลาเจนและเม็ดสี ผิวจึงเรียบเนียนและอ่อนนุ่ม

ทุกๆ อย่างในโลกของเราก็จะมีทั้งให้ประโยชน์ และให้โทษเสมอนะค่ะ มาศึกษาถึงผลเสียของการดื่มเบียร์กันบ้างค่ะ ดังนี้เลยค่ะ

ผลเสียของเบียร์ :
ไม่ใช่เฉพาะเบียร์ที่จะทำให้เกิดผลเสีย เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทำให้เกิดผลเสียทุกชนิด โดยเฉพาะกับตับ  ซึ่งต้องทำงานหนักเป็นพิเศษเวลาที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เข้าไป
ตับ เป็นอวัยวะที่ช่วยขับพิษออกจากร่างกาย แต่ถ้าตับเสียหาย ร่างกายก็จะเต็มไปด้วยพิษ แถมที่สำคัญ เบียร์ทำให้บวมอ้วนอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าจะดื่มเบียร์ครั้งต่อไป ก็ลองคิดให้ดี ๆ  ว่าร่ายกายเราพร้อมแค่ไหนก่อนดื่มนะค่ะ

โรคภัยกับตับของเรา
โรคภัยกับตับของเรา

ไวรัสตับอักเสบ

เพื่อสุขภาพที่ดีต้องดื่มให้เป็น  และพอประมาณนะค่ะ
ถ้าอะไรที่มากเกินไปก็จะส่งผลที่ไม่ดีต่อสุขภาพเราได้ค่ะ

http://blog.msu.ac.th/?p=10178

http://www.emory.edu/EMORY_REPORT/stories/2010/09/07/beer.html

ต้องใช้กฎหมาย ห้ามดื่มเหล้าในวัด

ห้ามดื่มสุราในวัด
ห้ามดื่มสุราในวัด

ปัจจุบัน ประเทศไทย มี พระราชบัญญัติหรือกฏหมายควบคุมการขายและการดื่มแอลกอฮอล์ ในวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา ไว้ ๒ มาตราด้วยกัน คือ มาตรา ๒๗ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา และ มาตรา ๓๑ ห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา เว้นแต่ เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา โดยมีการกำหนดโทษแก่ผู้ฝ่าฝืนไว้ด้วย คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อนึ่ง ในกฎหมายฉบับนี้ มิได้ระบุว่า วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนานั้น เป็นศาสนาใดเป็นการเฉพาะ หากรวมหมายทุกศาสนาที่มีอยู่ในประเทศไทย ในที่นี้จะขอพูดเฉพาะส่วนของพระพุทธศาสนาเท่านั้น
เป็นที่ทราบโดยทั่วไปแล้วว่าสุราเมรัยนั้น มีพิษและโทษภัยแก่ผู้ดื่มมากมาย ทำให้เสียภาพพจน์ ก่อการวิวาท และเกิดคดีอาชญากรรมมากมาย สติสัมปชัญญะเสื่อมถอย มีผลต่อการขับขี่ยวดยานพาหนะ ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน จะเห็นได้ในเทศกาลปีใหม่ก็ดี เทศกาลสงกรานต์ก็ดี มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะผู้ขับขี่เมาสุราเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บคือพิษสุราเรื้อรัง เป็นคนปราศจากความอาย จะแสดงอาการกิริยาอย่างไรก็ได้ เพราะขาดจิตสำนึกชั่วดี ด้วยอำนาจแห่งความมึนเมา และกล้าที่จะกระทำความชั่วได้ทุกขณะและทุกอย่าง
การที่ต้องออกกฎหมายมาควบคุมการขายและการดื่มเหล้าในวัดหรือในศาสนสถานนั้น ก็เพราะ ปัจจุบันมีคนแสวงหาประโยชน์ในการขายเหล้าในสถานที่ดังกล่าว โดยไม่คำนึงถึงว่า วัดหรือศาสนสถานนั้น เป็นแหล่งฟื้นฟูและปลูกฝังศีลธรรมอันดีแก่ชนทั่วไป เป็นสถานที่ต้องให้ความเคารพ ที่ไม่ควรถูกมองว่าเป็นแหล่งอบายมุขเสียเอง เมื่อมีกฎหมายออกมาควบคุมก็จะขจัดสิ่งไม่ดีให้หมดไป และส่งเสริมสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ในพระพุทธศาสนานั้นถือว่าการดื่มสุรา เมรัยเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ควรกระทำ จึงบัญญัติไว้ในศีล ๕ ข้อสุดท้าย โดยสอนให้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา การงดเว้นเป็นเรื่องจิตใจของผู้ต้องการทำความดี โดยปราศจากการบังคับ พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงห้าม และไม่ทรงบังคับใคร เพราะพระองค์ห้ามไม่ได้ ถ้าพระองค์ทรงห้ามได้ จะมีคนทำความชั่วอยู่หรือ พระพุทธองค์เป็นเพียงผู้บอกผู้ชี้ทางสว่างแก่ผู้คน ถ้าใครปฏิบัติตามธรรมของพระองค์ก็ได้รับคุณประโยชน์ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามธรรมของพระองค์ ก็จะได้รับในสิ่งไม่ดีที่ตนกระทำลงไป
ในส่วน พระวินัยปิฎก ได้กล่าวถึงเรื่องที่พระภิกษุดื่มสุราไว้ใน สิกขาบทที่ ๑ สุราปานวรรค ในปาจิตตีย์กัณฑ์ว่า พระสาคตะ ปราบนาค (งูใหญ่) ของพวกชฎิลได้ ชาวบ้านดีใจ อยากจะถวายของที่หาได้ยากแก่ท่าน พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ (พวกหกคน) แนะให้ถวายเหล้าสีแดงดั่งสีเท้านกพิราบ ชาวบ้านจึงทำตาม โดยถวายเหล้าให้พระสาคตะดื่ม พระสาคตะดื่มแล้วเมานอนกลิ้งอยู่ที่ประตูเมือง ความทราบถึงพระพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงบัญญัติสิกขาบทห้ามภิกษุดื่มเหล้า (น้ำเมาที่กลั่น) และเมรัย (น้ำเมาที่หมักดอง) ทรงปรับอาบัติปาจิตตีย์แก่ผู้ล่วงละเมิด
การดื่มสุราจัดเป็นอบายมุข คือ หนทางแห่งความเสื่อมประการหนึ่งของอบายมุขทั้งหลาย ที่ผู้ครองเรือนควรงดเว้นเด็ดขาด เพราะการดื่มสุรามีโทษมากมายดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ดังตัวอย่างเรื่องของลูกเศรษฐีผู้มีทรัพย์มาก ต้องกลายเป็นขอทาน ปรากฏในธรรมบทภาค ๕ ความว่า
เศรษฐีในเมืองพาราณสีมีทรัพย์ ๘๐ โกฏิ มีลูกชายคนหนึ่งให้แต่งงานกับลูกสาวผู้มีทรัพย์ ๘๐ โกฏิเช่นกัน เมื่อพ่อแม่ตายแล้ว ก็ได้ครอบครองทรัพย์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ๑๖๐ โกฏิ แต่เพราะคนทั้งสองไม่รู้จักการบริหารทรัพย์สิน สามีไปคบกับนักเลงสุรา เที่ยวดื่มกิน เพลิดเพลินและมัวเมาไปด้วยรูป รส กลิ่น เสียง จนทรัพย์หมดเกลี้ยงทั้งของตนและของภรรยา ในที่สุดต้องกลายเป็นขอทานยังชีพไปวันๆ
ในธรรมบทภาค ๕ เช่นเดียวกัน ได้กล่าวถึงหญิงผู้เป็นสหายของนางวิสาขา มหาอุบาสิกา ๕๐๐ คน ที่สามีของพวกนางนำมาฝากให้ดูแล เพราะพวกเขาจะไปดื่มเหล้าในเทศกาลที่จัดขึ้นตามประเพณี เป็นเวลา ๗ วัน พอวันที่ ๘ สามีของพวกนางออกจากบ้านไปทำงาน พวกภรรยาเหล่านี้ก็ชักชวนกันดื่มสุรา โดยแอบพกสุราที่สามีดื่มเหลือไว้ติดตัวไปด้วย ขอร้องให้นางวิสาขาพาไปเที่ยวในสวน นางวิสาขาก็พาไป สหาย หญิงเหล่านั้นก็แอบกินเหล้าจนเมามาย ร้องรำทำเพลงกันไป นางวิสาขาได้รับความอับอายเป็นอันมาก จึงตำหนิติเตียนหญิงสหายเหล่านั้น และเมื่อพวกนางกลับไปบ้านก็ถูกสามีทุบตีเอา เพราะไปดื่มเหล้าเมามายที่ผู้หญิงไม่ควรกระทำ
ต่อมา มีงานรื่นเริงอื่นๆ อีก พวกหญิงสหายเหล่านั้นอยากกินเหล้า จึงพากันไปหานางวิสาขา ขอให้พาไปเที่ยวเล่นในสวน นางวิสาขาปฏิเสธ เพราะกลัวจะถูกหลอก พวกนางจึงแกล้งเอาใจว่าจะไปทำพุทธบูชา ขอให้พาไปวัดเชตวันมหาวิหาร นางวิสาขาจึงพาไป โดยไม่ทราบว่าหญิงเหล่านั้นแอบนำเหล้าไปด้วย เมื่อถึงวิหารแล้วก็ไปแอบดื่มกันจนเมามาย แล้วจึงไปเฝ้าพระพุทธเจ้า บางคนแสดงอาการพิกลพิการเริ่มหัวเราะ บางคนเริ่มปรบมือ พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุดังนั้น จึงบันดาลให้หญิงเหล่านั้นสร่างจากอาการมึนเมา มีสติสัมปชัญญะดังเดิม ตรัสตำหนิว่า คนที่มาสู่สำนักของพระองค์ไม่ควรกระทำกิริยาเช่นนี้ แล้วตรัสพระคาถาว่า
“เมื่อโลกสันนิวาส อันไฟลุกโพลงอยู่เป็นนิตย์ พวกเธอยังร่าเริงบันเทิงอะไรกันหนอ? เธอทั้งหลายอันความมืดปกคลุมแล้ว ทำไมไม่แสวงหาประทีปเล่า?”
ในเวลาจบพระธรรมเทศนา หญิงทั้ง ๕๐๐ ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว
นี่เป็นการเข้าไปดื่มเหล้าในวัดเป็นครั้ง แรกในพระพุทธศาสนา แต่อาศัยที่พระพุทธเจ้ามีพุทธบารมีอันยอดยิ่ง จึงทำให้พวกเธอเหล่านั้นบรรลุธรรมได้ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็อย่าหวังเช่นนั้นเลย แถมยังถูกจับติดคุกอีกต่างหาก
* หมายเหตุ : โลกสันนิวาส หมายถึง โลกอันเป็นที่อยู่ร่วมกัน
จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 91 มิ.ย. 51 โดย ธมฺมจรถ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2551 16:48 น.

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=65481&sid=e87e45687b9a57276ebd16aaa5aa403e

ห้ามดื่มเหล้าในวัด
พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา

ด้วยเหตุผลที่ว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุ และอาชญากรรม ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ สมควรกำหนดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ
ช่วยสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนโดยให้ตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ตลอดจนช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนมิให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมายถึง สุรา (ที่แปลว่าเหล้า) ตามกฎหมายว่าด้วยสุรา ส่วนผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ บุคคลที่ดื่มเหล้าจนก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ โดยการดื่มนั้นมีลักษณะที่ต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้น และเมื่อหยุดดื่มจะมีอาการแสดงของการขาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร่างกาย เช่น มือไม้สั่นต้องไปถอนสักหน่อย
สาระสำคัญของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับนี้ คือ ต้องการที่จะควบคุมทั้งการซื้อการขายสุรา ทั้งนี้เพราะถึงแม้ว่าประเทศไทยประกาศเป็นเมืองพุทธ แต่ชาวบ้านยังสามารถหาซื้อเหล้ามาดื่มกันอย่างง่ายดายและมีจำหน่ายทั่วไป ทำให้ต้องมีทั้งคณะกรรมการและพระราชบัญญัติมากำหนดมาตรการต่างๆ เช่น ห้ามขายเหล้าให้กับคนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ (มีการขอดูบัตรประชาชนคนซื้อเหล้ากันแค่ไหน) ห้าม ขายเหล้าให้กับบุคคลซึ่งมีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ ถ้าผู้ขายฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากสถานที่ราชการ ปั๊มน้ำมัน สวนสาธารณะ โรงเรียน และหอพัก ที่ประกาศห้ามจำหน่ายและดื่มสุราแล้ว ที่น่าสนใจ คือ ต่อไปนี้ถ้ามีการจำหน่ายและดื่มสุรากันในวัด จะถูกจับ มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อไปนี้ถ้าจะจัดงานในวัด ก็ควรจะเป็นบรรยากาศที่เรียบง่ายและสงบ ส่วนที่จะให้มีการรื่นเริงและเลี้ยงสุรากันควรห่างจากกำแพงวัดให้มากเข้าไว้ จะเป็นการดีแก่ทุกฝ่าย

หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน หน้า 30
คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา โดย สมชาย สุรชาตรี
ผู้อำนวยการกองพุทธสารนิเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6372
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15815