https://www.facebook.com/gthaiall/media_set?set=a.744434575591166.1073741863.100000738912455
13 เม.ย.57 ครอบครัวดวงไชยมักรวมตัวกันในหมู่เครือญาติ
มีพี่น้อง 9 คนเป็นลูกแม่หลวงเหรียญ พร้อมหลาน เหลน เขย และสะใภ้
ปี 2557 นัดหมายไปล่องแพเนื่องในเทศกาลวันหยุดสงกรานต์
เหนือเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก
นัดแพไว้ 10.00น. วันที่ 13 เม.ย.57 และกลับเวลาเดียวกันของวันรุ่งขึ้น
ได้ติดต่อแพ ธ.กาญจนา
Tel.055-549238 081-9729673 081-8885166
ติดต่อผ่าน อาทิวา เป็นญาติที่ลำปางที่มีประสบการณ์มาค้างแรมบนแพ
เราเช่าแพขนาดใหญ่ ตกลงไว้ว่า 30 คน คิดค่าแพ 15,000 บาท
หรือหัวละ 500 บาทนั่นเอง แต่ในวันเดินทางรวมญาติได้ 38 คน
ทำให้ตอนกลับต้องจ่ายเพิ่มเป็น 19,000 บาท
บริการของแพมีที่นอน หมอน ผ้าห่ม ห้องน้ำ 4 ห้อง ชุดคาราโอเกะ น้ำเปล่า
เลี้ยงมื้อเที่ยงเป็นส้มตำกับทอดมันปลา และสมาชิกเตรียมห่อข่าวไปทานมื้อเที่ยง
มื้อเย็นเลี้ยงแบบโต๊ะจีน มีปลาทอด ผัดฉ่าปลาคัง ต้มยำปลาคัง ผัดผักใส่หมู น้ำพริกอ่อง
มื้อเช้าเป็นข้าวต้มกุ้ย มีหัวไชโป้ผัดไข่ ปลาเค็มหนึ่งแว่น ไข่เค็ม ยำผักกาดดอง
การเดินทาง แพเคลื่อนจากท่าแพ 10 โมงกว่า ปลายทางที่เจ้าของแพกำหนด
คือ เกาะวาเลนไทน์ (Valentine Island) ไปถึงราวเที่ยงตรง
คงเพราะเรือเล็กลากแพมีกำลัง จึงลากแพใหญ่ถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
ผมเดินสำรวจเกาะเกือบ 2 ชั่วโมง
เพราะเกาะค่อนข้างกว้างและชัน ไปถึงส่วนยอดของเกาะ เห็นรังอีกาบนยอดไม้
ยิ่งฤดูร้อนน้ำลด เกาะก็จะกว้างกว่าเดิม น้ำหลายจุดตื้นเขิน
มีสัตว์ชนิดหนึ่งที่ชาวแพบอกว่าเป็นแพะ ที่นำมาปล่อย เพราะรอบเกาะมีขี้แพะ
กระจายอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะยอดเกาะ หรือริมหาดก็พบเห็นได้
ตกเย็นเด็กในแพสวมชูชีพ โดดเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
แม้น้ำจะลึกแต่มีเสื้อชูชีพสวมกันทุกคน
ตกเย็นมีพายุฝนเข้ามาอย่างรุนแรง ผมต้องย้ายที่นอนจากหน้าแพออกมา
เพราะฝนสาด เราไม่รู้สึกกลัวแม้ลมจะแรง แอบหลบแรงลมอยู่ในซอกหลังเกาะ
กลางคืนฟ้ากระจ่างเห็นพระจันทร์เต็มดวง
ตอนรุ่งสางพระจันทร์สีแดงสดค่อย ๆ ลับยอดเขาหายไป
กิจกรรมบนแพก็มีหลากหลาย
ทั้งดื่มกิน ร้องเพลง เต้นรำ ถ่ายรูปกันเอง ถ่ายรูปทิวทัศน์
ทำอาหารที่เตรียมมา เล่นเกม พูดคุยทักทายกันประสาญาติมิตร
เล่นน้ำเมื่อแพหยุด สำรวจเกาะ นั่งนอนตามอัธยาศัย
เจ้าของแพบอกว่าปกติมีหมอนวดประจำแพ
แต่ครั้งนี้เป็นหยุดเทศกาล จึงลากลับบ้าน
ถ้าเพื่อน ๆ สนใจไปเที่ยว เสนอว่าเตรียมฟืน ไฟฉาย เต้น มีด หรือของเล่นชายหาด
ไปพจญภัยบนเกาะ มีมีดไว้ตัดต้นไมยราบ ทำทางให้นักท่องเที่ยวรุ่นต่อไป
เพราะเห็นหลายจุดที่น่าจะมีนักท่องเที่ยว ก่อไฟทิ้งไว้
แต่ดีที่ไม่มีขยะใด เจ้าของแพคงช่วยกันดูแลอย่างดี
เพราะคืนนั้นเห็นมีแพมาจอดค้างคืนประมาณ 5 แพ
รวมคนก็อาจถึง 150 คน
แต่นักท่องเที่ยวคงเป็นผู้สูงอายุกันเยอะ ไม่ค่อยเดินเพ่นพ่านบนเกาะเท่าใด
ขากลับ ตอนเช้าเราออกค่อนข้าวเร็ว
ผม และนักไต่เขาถูกเรียกจากยอดเขา นึกว่าเรียกไปทานข้าว
แต่เรียกให้ขึ้นแพ เพราะรีบเดินทางไปที่เกาะวัดพระพุทธบาทเขาหนาม
บนเขาลูกนี้มีต้นคล้ายว่านหางจระเข้จำนวนมากแทบทั้งเกาะ
น่าจะเป็นที่มาของคำว่าเขาหนาม
การขึ้นเกาะนี้ค่อนข้างสูง ชัน และแคบ ทำให้นึกถึงดอยฮางที่เกาะคา
“ปัจจุบันทางขึ้นพัฒนาดีขึ้นมาก เหยียบได้เต็มเท้าเกือบทุกขั้น”
เป็นคำบอกเล่าของญาติที่เคยมาแล้วสองครั้ง
ด้านบนก็พัฒนาไปมาก มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้น นับได้ประมาณ 7 แหล่ง
นอกจากต้องใช้พลังภายในขับตัวเองให้ขึ้นไปถึงจุดสุดยอดแล้ว
ยังต้องใช้อีกไม่น้อย กว่าจะทัวร์ให้ครบแหล่งธรรมให้ครบ 7 แหล่ง
ขาลงก็เหนื่อยไม่น้อย ลงมารับประทานข้าวต้ม รู้สึกอร่อยมาก
เพราะทั้งเหนื่อยและหิว ทานเยอะไม่ได้มีปริมาณจำกัดแบบโต๊ะจีน