7 ต.ค.55 อ.ศักดิ์ รัตนชัย พูดถึงเขี้ยวในกลไก และ อ.วฯ ก็พูดถึงเขี้ยว ทำให้ผมนึกถึงเพลงอาตี๋สักมังกร ที่มีเขี้ยว.. เพื่อนที่อายุเกินผู้ใหญ่ คงเคยฟังเพลงนี้กันทุกคน ถ้าให้นักศึกษาเรียนรู้เพลงนี้ ก็จะเป็นบทเรียนเรื่อง “ความอดทน” ได้ดีครับ
http://www.youtube.com/watch?v=3Sevs7YvrmA
อาตี๋สักมังกร ของ เพลิน พรหมแดน
(อาจารย์) ผมอาจารย์เพลิน เชิญครับเชิญ เชิญมารู้จัก วิชาอาคมผมเก่งยิ่งนัก เป็นอาจารย์สักชื่อเสียงโด่งดัง รูปอะไรสักได้ทุกอย่าง หมีม้าลาช้างค่างลิงสิงโต
(อาตี๋) ขอโทษครับ ท่านคืออาจารย์เพลิน พรหมแดน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทางสักเสกเลขยันต์ใช่ไหมครับ (อาจารย์) ใช่แล้วมีธุระอะไรเรอะอาตี๋ ฮื้อ
(อาตี๋) คือผมต้องการสักมังกือ
(อาจารย์) อื้อ มีแต่มังกร
(อาตี๋) ครับมังกรเจ็ดหัว มีตัวใหญ่ๆหางยาวๆ มีหนวดมีเขามีเท้ามีนิ้วมีเล็บ และคาบแก้วด้วย ท่านอาจารย์สักได้หรือเปล่าครับ
(อาจารย์) จะให้เอาทั้งหมดเลยเหรอะ
(อาตี๋) ครับๆ อาจารย์
(อาจารย์) ได้ซิ เอ้า นอนลง อั้วจะทำพิธีสักให้เดี๋ยวนี้แหละ ตั้งนะโมแล้วเสกมนต์ขลัง วะตะมะขังปะกาเสนโต อันตัวกูคือมังกะราโย นั่งยองโย่แล้วลงเข็มมนต์ เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
(อาตี๋) ไอ้หย๋า อาจารย์ครับ
(อาจารย์) ฮือ
(อาตี๋) ผมว่าเอาหัวเดียวดีกว่าครับอาจารย์
(อาจารย์) อ้าวก็ตะกี๊นี้ลื้อบอก เจ็ดหัวไม่ใชรึ
(อาตี๋) คือผมเพิ่งคิดได้ว่าหัวเดียวปากเดียวว่องไวไม่เกะกะเหมือนเจ็ดหัว เวลาจะกินก็ไม่ต้องแย่งกันกินด้วย หัวเดียวดีกว่าครับ
(อาจารย์) หัวเดียวเรอะครับ เอ้าหัวเดียวก็หัวเดียว นะโมนะโมผีกลัวไม่กล้า จะโตนะถาหนังเหนียวเข้มข้น ฝ่าดงแข้งคนยี่สิบคน ไม่ยับไม่ย่นแค่เจ็บๆ คันๆ เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
(อาตี๋) อุ๊ยหย่าอาจารย์ครับ
(อาจารย์) อะไรอีกหล่ะ
(อาตี๋) ไม่ต้องคาบแก้วดีกว่าครับอาจารย์
(อาจารย์) บ๊ะ ก็ตะกี้ลื้อบอกคาบแก้วด้วยนี่
(อาตี๋) คือผมเพิ่งคิดได้ว่า มังกรถ้าคาบแก้วคาปากอยู่
(อาจารย์) มันเป็นยังไง
(อาตี๋) มันก็กินอะไรไม่ได้ ปุเดี๋ยวมันก็หิวตายซิครับ ไม่คาบดีกว่าเนาะอาจารย์
(อาจารย์) ไม่คาบเรอะ
(อาตี๋) ครับ
(อาจารย์) เอ้าไม่คาบก็ไม่คาบ มหาอุตหยุดปืนใหญ่ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่พลั่น เขี้ยวงาทุกสิ่งเข้ามายิงฟัน ยิงได้ทั้งวันไม่หวั่นจริงๆ เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
(อาตี๋) โอ๊ยหย๋า อุ๊ยช้ำ อะอาจารย์ครับ ปุเดี๋ยวก่อนครับอาจารย์
(อาจารย์) อะไรอีกเล่า เอ๊ลื้อนี่รบกวนสมาธิจริงจริงเลยนะ
(อาตี๋) คือผมคิดว่าไม่ต้องมีเท้ามีนิ้วมีเล็บก็ได้ครับ
(อาจารย์) มังกรมันก็ต้องมีเท้ามีนิ้วมีเล็บ ถ้าไม่มีจะเป็นมังกรได้ยังไงฮึ
(อาตี๋) เป็นได้ซิครับ อาจารย์อย่าเถียง ผมอยู่เมืองจีนมาก่อน ดูแต่พญานาคซิยังไม่มีเลย
(อาจารย์) ไม่มีเร๊อะ เอ้า ไม่มีก็ไม่มี รำคาญจริงจริง โอมมาหาระรวย ใครเห็นงงงวยผูกใจชายหญิง ปัญญาจ้าแจ่มหัวแหลมเหมือนลิง ถึงคราวต้องวิ่งใครไล่ไม่ทัน เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
(อาตี๋) ไอ้หย่าซี้เลี้ยวอ๋า ตายแน่ตายจริงจริง อาจารย์ครับหยุดก่อนฮะ ไม่หยุดต้องมีเรื่องแน่
(อาจารย์) เรื่องอะไรอาตี๋ฮื๊อ
(อาตี๋) มังกรไม่ต้องมีเกร็ดก็ได้ครับ
(อาจารย์) ปัดโธ่อาตี๋เอ้ยพอพอเลิกเลิก อั้วไม่สักไม่เสิกให้ลื้ออีกแล้ว ลงอีแบบนี้ต่อไปลื้อก็คงไม่เอาหนวดไม่เอาเขา ไม่เอาเขี้ยว มังกรถ้าไม่กลายเป็นงูเขียว อย่างดีมันก็เป็นแค่งูดิน หรือไม่ก็ปลาไหล เท่านั้นแหละว๊ะ ไปไปให้พ้น
(อาตี๋) ดีดีครับอาจารย์ ผมจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว เข็ดจนตายไม่เอาอีกแล้ว แฮ่ แฮ่ แฮ่
http://writer.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=179136&chapter=170
เนื้อเพลงที่มีการปรับปรุง และร้องใหม่
[เพลิน] : ผมอาจารย์เพลิน เชิญครับเชิญ เชิญมารู้จัก วิชาอาคมผมเก่งยิ่งนัก เป็นอาจารย์สักชื่อเสียงโด่งดัง รูปอะไรสักได้ทุกอย่าง หมีม้าลาช้างค่างลิงสิงโต
[ตี๋] : ขอโทษครับ ท่านคืออาจารย์เพลิน พรหมแดน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทางสักเสกเลขยันต์ บ้านเดิมอยู่อารัญ ติดกับแดนกัมพูชา ใกล้กับตาพญา และวัฒนานคร จังหวัดพึ่งตั้งใหม่สดๆร้อนๆ สระแก้ว ใช่ไหมครับ
[เพลิน] : หือ ทักทายร่ายยาวเป็นกิโลเชียวนะ ใช่แล้ว มีธุระอะไรเรอะอาตี๋ ฮื้อ
[ตี๋] : ผมกลัวพลาดจะผิดตัวเลยร่ายยาวไว้ก่อน กันพลาด
[เพลิน] : อืมม พล่ามอยู่นั่นแหละ มีอะไรก็ว่ามา
[ตี๋] : คือผมอยากให้อาจารย์สักมังกือ
[เพลิน] : มังกร
[ตี๋] : เอ่อ มังกร
[เพลิน] : ลื้อจะสักไปทำไม
[ตี๋] : คือผมอยากอยู่ยงคงกระพันสรพงศ์ชาตรี
[เพลิน] : หือ คงกระพันชาตรี
[ตี๋] : เออ คงกระพันซาตรี ถูกตีก็ไม่วิ่ง ถูกยิงก็ไม่หวั่น ถูกฟันก็ไม่ตาย ต่อไปเผื่อผมจะได้เป็นเจ้าพ่อกับเขาบ้าง
[เพลิน] : อ่อ อย่างงั้นเองเรอะ เอามังกรแบบไหนล่ะอาตี๋
[ตี๋] : เอามังกรเจ็ดหัว ตัวใหญ่ๆหางยาวๆ มีเขาเหมือนวัวกระทิง หนวดชี้ดิ่งขึ้นฟ้า เท้าแข็งแรงเหมือนแรดป่า เล็บเหมือนกับพญาครุตคาบแก้ว เป็นมหาอุต เกล็ดทุกอันฝังมุก เขี้ยวงอเหมือนทศกัณฑ์ นิ้วแต่ละอันแข็งโล่เหมือนโซ่สแตนเลส
[เพลิน] : เหอะๆๆ กว่าจะเสร็จมันเจ็บมากนะอาตี๋นา
[ตี๋] : ไม่เป็นหน่ออาจารย์ สำหรับผมนะ เรื่องอยู่ยงคงกระพันเป็นเรื่องใหญ่ ตายเป็นเรื่องเล็ก เจ็บเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย รับรองไม่มีถอยแม้แต่คืบเดียว
[เพลิน] : อืม เอางั้นนอนลง อั๊วจะสักให้ลื้อเดี๋ยวนี้แหละ เฮ้ย ลูกศิษย์ทั้งขวาทั้งซ้าย จับไอ้ตี๋เอาไว้อย่าให้มันดิ๊นนะ!
[ศิษย์] : ครับ อาจารย์[เพลง] : ตั้งนะโมแล้วเสกมนต์ขลัง วะตะมะขังปะกาเสนโต อันตัวกูคือมังกะราโย นั่งยองโย่แล้วลงเข็มมนต์ เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
[ตี๋] : ไอ้หย๋า อาจารย์ครับ
[เพลิน] : ฮือ
[ตี๋] : ผมว่านะ มังกรเนี่ย ให้มีแค่หัวเดียวดีกว่าครับอาจารย์
[เพลิน] : อ่า ไหนบอกแกต้องการตั้งเจ็ดหัวไม่ใชรึ
[ตี๋] : ใช่ครับ แต่ผมเพิ่งมาคิดได้ว่า ถ้ามังกรเนี่ยมีหัวเดียวปากเดียวว่องไว ไม่เกะกะวุ่นวายลำบากใจเหมือนเจ็ดหัว เวลาคิดก็ไม่ต้องแย่งกันคิด กินก็ไม่ต้องแย่งกันกิน เวลาต้องการจะอยู่นิ่งๆ ก็ไม่มีหัวไหนหัวไหนคอยส่ายไปส่ายมา ทำให้ปวดอุราเหมือนรัฐบาลผสม อาจารย์ต้องเชื่อผมหัวเดียวดีกว่าเจ็ดหัวแน่นอน
[เพลิน] : แต่เขาว่าหัวเดียวกระเทียมลีบนะ
[ตี๋] : นั่นมันให้น้ำไม่พอ กระเทียมเลยลีบเลยเหี่ยว ไม่เกี่ยวกับหัวมังกร
[เพลิน] : จะเอาหัวเดียวว่างั้นเถอะ
[ตี๋] : ครับ
[เพลิน] : เอ่า ตามใจ หัวเดียวก็หัวเดียววะ เฮ้ย ช่วยจับที
[เพลง] : นะโมนะโมผีกลัวไม่กล้า จะโตนะถาหนังเหนียวเข้มข้น ฝ่าดงแข้งคนยี่สิบคน ไม่ยับไม่ย่นแค่เจ็บๆ คันๆ เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
[ตี๋] : อุ๊ย ไอ่หย๋า อาจารย์ครับ
[เพลิน] : อะไรอีกหล่ะไอ้ตี๋
[ตี๋] : คือผมว่ามังกร ไม่ต้องคาบแก้วดีกว่าครับอาจารย์
[เพลิน] : บ๊ะ ก็ลื้อบอกว่าเอาคาบแก้วเป็นมหาอุตไม่ใช่เหรอ
[ตี๋] : คือผมเพิ่งคิดได้ว่า มังกรถ้าคาบแก้วคาปากอยู่
[เพลิน] : แล้วมันเป็นยังไง
[ตี๋] : มันก็จะกินจะดื่มจะเขมือบอะไรก็ไม่ไล่ เดี๋ยวมันก็หิวตายผมตาย แล้วอีกอย่างนา ไม่คาบดีกว่าเนาะอาจารย์
[เพลิน] : อะไรอีกล่ะ
[ตี๋] : ถ้าขืนให้มันอ้าปากอยู่ทั้งคืนทั้งวัน ดีไม่ดี แมลงหวี่แมลงวันก็จะพากันบินนำเชื้อโรคมาหย่อนใส่ปาก ทีนี้มันก็จะกลายเป็นมังกรขี้โรค ต้องซบเซ้าเศร้าโศกสิ้นสุดสดใสเหี่ยวแห้งแรงกายไร้สมองอ่อนปัญญา
[เพลิน] : โธ่เอ้ย จะไม่เอามังกรคาบแก้วว่างั้นเถอะ
[ตี๋] : ครับ อาจารย์
[เพลิน] : เอ้า ไม่คาบก็ไม่คาบสิวะ เอ้า พวกเราจับอีกที
[ศิษย์] : ครับ อาจารย์
[เพลง] : มหาอุตหยุดปืนใหญ่ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่พลั่น เขี้ยวงาทุกสิ่งเข้ามายิงฟัน ยิงได้ทั้งวันไม่หวั่นจริงๆ เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
[ตี๋] : โอ๊ยหย๋า อุ๊ยช้ำ อาจารย์ครับ
[เพลิน] : หือ
[ตี๋] : หยุดฟังคำเจียระไนอีกนิดเถอะครับ
[เพลิน] : เฮ้อ อะไรอีกเล่า เอ๊ ไอ้นี่ชอบทำให้เสียเวลาเสียสมาธิจริงๆ เอ้า มีอะไรก็ว่าไป
[ตี๋] : คือ สมองปัญญาผม ไม่รู้มันมาจากไหน ทำให้ผมคิดได้ แล้วก็อยากจะแนะนำอาจารย์ว่า มังกรอะไม่ต้องมีเท้ามีนิ้วมีเล็บก็ได้ครับ
[เพลิน] : เพราะอะไร
[ตี๋] : เพราะถ้ามังกรมีเท้ามีนิ้วมีเล็บ เวลามันแผงฤทธิ์ขึ้นมา มันก็จะตะกุยตะกาย ทำให้เนื้อหนังร่างกายของผมกระจุยกระจายแน่นอนที่สุด เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการตัดลมแต่หัววัน
[เพลิน] : ตัดไฟแต่ต้นลม
[ตี๋] : เออ ตัดไฟแต่ต้นลม ผมคิดว่า ไม่ต้องให้มันมีดีกว่าครับอาจารย์
[เพลิน] : เฮ้ย มังกรมันก็ต้องมีเท้ามีนิ้วมีเล็บ ถ้าไม่มีจะเป็นมังกรได้ยังไงล่ะไอตี๋
[ตี๋] : เป็นได้ซิครับ อาจารย์อย่าเถียง
[เพลิน] : จะเป็นได้ยังไง แล้วจะเรียกมันว่ายังไง
[ตี๋] : เราก็เรียกมันว่ามังกรโปลิโอหน้าโง่ปัญญาอ่อน เพราะพ่อมันมั่วสำส่อนมันเลยคลอดก่อนกำหนดไงอาจารย์
[เพลิน] : โธ่ ทุเรศจริงๆไอ้ตี๋เอ๊ย มังกรเป็นโปลิโอ ไม่เคยพบเคยเห็นซะที รำคาญสิ้นดี เอ้า ไม่มีก็ไม่มีมันสิวะ ฮุ้ย รำคาญเหลือทนไอ้นี่
[เพลง] : โอมมาหาระรวย ใครเห็นงงงวยผูกใจชายหญิง ปัญญาจ้าแจ่มหัวแหลมเหมือนลิง ถึงคราวต้องวิ่งใครไล่ไม่ทัน เพี้ยง จึก จึก จึก จึก จึก
[ตี๋] : ไอ้หย่า ซี้เลี้ยวอ๋า ตายแน่ ตายจริงๆ อาจารย์ หยุดก่อน ไม่หยุดต้องมีเรื่องแน่เลย
[เพลิน] : ไอ้ตี๋นี่เอ็งเจ็บหรือเอ็งเสียว
[ตี๋] : ถามทุเรศ เสียวไปได้ยังไง เจ็บจะตายโหง
[เพลิน] : แล้วให้หยุดทำไมอีกล่ะ
[ตี๋] : ก็หยุดเพื่อจะบอกอาจารย์ว่ามังกรไม่ต้องมีเกล็ดก็ได้ครับ
[เพลิน] : ปัดโธ่อาตี๋เอ้ย พอๆๆ เลิกๆๆ อั้วไม่สักไม่เสิกให้ลื้ออีกแล้ว ลงอีแบบนี้ต่อไปลื้อก็คงไม่เอาเขี้ยวเอาแข้งเอาขาเอาหูเอาตา มังกรถ้าไม่กลายเป็นหมามันก็ต้องกลับมาเป็นมังคุดหรือดีที่สุดก็เป็นได้แค่ตุ๊กแกหัวหลุดอุดเป็นไส้เลื่อนไส้เดือนถูกอีเฒ่าเห็นแหละว๊ะ ไป๊!! ไปให้พ้น ขืนอยู่เดี๋ยวโดน M-16
[ตี๋] : แหะๆๆ ขอเป็นสาวสิบหกซบอกเพื่อแก้เจ็บได้ไหมอาจารย์
[เพลิน] : ยังจะมาทะลึ่ง ไป๊!!
[ตี๋] : ดีๆครับอาจารย์ ผมขอสาบแล้วไม่ขอพบพาน ทนทุกข์ทรมาณปวดร้าวซมซานทั่วทั้งกายา จมน้ำตาไหลและเจ็บแทบชีวีวาย เข็ดจนวันตาย ไม่ขอกร่ำกรายมาใกล้อีกแล้ว แฮ่ แฮ่ แฮ่ ๆ ๆ ๆ
http://writer.dek-d.com/Lonelyboy0/writer/viewlongc.php?id=342133&chapter=23